'อิสราเอล' ประกาศใช้มาตรการกักตัว ปชช.เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม หลังนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเตือนไวรัสโควิดเดลาต้าเสี่ยงระบาด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศอิสราเอลได้มีการให้อำนาจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการกักตัวใครก็ตามที่มีโอกาสจะสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะมีภูมิคุ้มกันจากการได้รับการฉีดวัคซีนหรือฟื้นจากการป่วยโควิด-19 มาแล้วก็ตาม
โดยการตัดสินใจดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากการที่นายนาฟตาลี เบนเน็ตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้มีการออกมาเตือนเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าให้ระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย เนื่องจากว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้น แต่ตัวเลขยังไม่มากนักเนื่องจากว่าประเทศอิสราเอลมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับที่สูง
ซึ่งรายละเอียดของคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขที่อัปเดตล่าสุดนั้นระบุว่าผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหรือผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 จะถูกสั่งให้กักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน ถ้าหากทางการเห็นว่าบุคคลนั้นอาจมี “การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นพาหะของสายพันธุ์ไวรัสที่อันตราย”
โดยทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศระบุว่าการสัมผัสใกล้ชิดที่ว่านั้นอาจรวมถึงการโดยสารร่วมกันในเครื่องบินลำเดียวกันก็ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับประเทศอิสราเอลในการเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้
อนึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. มีรายงานว่าทางกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลได้มีการประกาศขึ้นบัญชีห้ามพลเมืองเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้ได้แก่ ประเทศอาร์เจนตินา,ประเทศบราซิล,ประเทศแอฟริกาใต้,ประเทศอินเดีย,ประเทศเม็กซิโก และประเทศรัสเซีย และจะมีการปรับเงินผู้ฝ่าฝืนเดินทางไปยังประเทศเหล่านี้เป็นเงินจำนวนหลายพันเชเขล (1เชเขลเท่ากับ 9.71 บาทไทย)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/