สธ.แจงจัดศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อเป็นแผนสำรอง รับกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนระบบ 'หมอพร้อม' ตกหล่น ในเขต กทม. คาดรับได้วันละ 2,000 ราย เริ่มฉีด 16 มิ.ย. ย้ำต้องติดต่อ รพ.ที่นัดหมายก่อน หากรอไม่ได้ค่อยมาฉีด
............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด แถลงข่าวความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มตกหล่น 'หมอพร้อม' เฉพาะเดือน มิ.ย. ในเขต กทม. ว่า วัตถุประสงค์ของการฉีดวัคซีนมี 3 ข้อ คือ 1) ลดการเจ็บป่วย เสียชีวิต กลุ่มเป้าหมายคือ 7 คุมโรคเรื้อรัง และอายุ 60 ปีขึ้นไป เพราะถ้าป่วยแล้วมีโอกาสป่วยหนักเข้าห้องไอซียูและเสียชีวิต ดังนั้นจึงเป็น 2 กลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนเป็นลำดับแรก 2) เพื่อให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าต่อไปได้ จึงฉีดกลุ่มบุคลากร การฉีดในกลุ่มแรกก็จะทำให้ผู้ป่วยลดลงและทำให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าต่อไปได้ และ 3) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น การดำเนินการที่ภูเก็ตและสมุย หรือพื้นที่เกิดการระบาดหนักๆ เช่น กทม. ปริมณฑล ก็รวมอยู่ในข้อ 3 นี้
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า จึงมีนโยบายออกมาตั้งแต่แรกแล้วให้ฉีดวัคซีนกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในช่วงแรกก่อน ต่อจากนั้นจึงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่ม จากข้อมูลจำนวนการได้รับวัคซีนโควิดในประเทศไทย แยกตามกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-13 มิ.ย. 2564 พบว่า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วคิดเป็นร้อยละ 100.9 ส่วนเข็มที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 86.5 ขณะที่เจ้าหน้าที่ด่านหน้าเข็มแรกร้อยละ 25.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 12.7 อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เข็มที่ 1 ร้อยละ 22.5 เข็มที่ 2 ร้อยละ 10.4 ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 7.5 เข็มที่ 2 ร้อยละ 1.5 ผู้สูงอายุ 60 ปีเข็มแรก ร้อยละ 6 และเข็มที่ 2 ร้อยละ 0.3 และประชาชนทั่วไป เข็มแรก ร้อยละ 6.8 เข็มที่ 2 ร้อยละ 2
ทั้งนี้จะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายยังได้รับสิทธิน้อย ตามเป้าหมายกระทรวงสาธารณสุขตั้งใจให้ 2 กลุ่มนี้ควรได้วัคซีนก่อนในช่วงเดือน มิ.ย. -ก.ค. เพื่อลดการสูญเสีย จากการเจ็บป่วยและระบบสาธารณสุข และบุคลากรจะได้ไปดูแลโรคอื่นต่อได้ด้วย ไม่ต้องรับภาระงานมากเกินไป จึงให้มีการจองในระบบหมอพร้อม
อย่างไรก็ตาม 2 กลุ่มนี้ ควรจะได้ฉีดวัคซีนตามที่เขาจองภายใน 2 เดือนนี้ แต่เนื่องจากมีปัญหาไม่ได้รับวัคซีนตามนัด จึงเป็นเหตุทำให้ สธ.ต้องเข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุน และขอทำความเข้าใจกับจังหวัดต่างๆ ให้ฉีดวัคซีน 2 กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มแรก โดยเฉพาะจองมาแล้วผ่านหมอพร้อม จึงมั่นใจว่าจังหวัดต่างๆ จะดำเนินการได้
"หากประชาชนคนใดถูกเลื่อนการฉีดวัคซีนแล้วไม่สบายใจ สามารถมาขอรับบริการได้ที่สถานีกลางบางซื่อ แต่ขอให้โทรศัพท์สอบถามโรงพยาบาลที่มีนัดหมายฉีดวัคซีนก่อน ว่าถูกเลื่อนนัดหมายหรือไม่ แล้วสำรวจความต้องการตนเอง ว่าสามารถรอได้หรือไม่ หากไม่สบายใจค่อยมารับการบริการที่สถานีกลางบางซื่อ ยืนยัน ไม่ได้แย่งงานของ กทม. แต่เพื่ออำนวยความสะดวกกับคน 2 กลุ่ม เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบาง ต้องได้รับวัคซีน ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่ออาการป่วยที่รุนแรงมากกว่าคนทั่วไป" นพ.โสภณ กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า จำนวนการได้รับวัคซีนโควิดของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-13 มิ.ย.64 กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ฉีดแล้วร้อยละ 0.3 กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้ออยู่ที่ร้อยละ 1.5 จึงต้องการเพิ่มสัดส่วนใน 2 กลุ่มนี้ ให้ได้รับการฉีดวัคซีน พร้อมย้ำว่า การฉีดครั้งนี้เฉพาะผู้ลงทะเบียนในระบบหมอพร้อมของ กทม.เท่านั้น เป็นการช่วยเหลือได้รับวัคซีนเร็วขึ้น เนื่องจากตามเป้าหมาย 2 กลุ่มนี้ ต้องทยอยได้รับวัคซีน และเสร็จสิ้นในเดือน ก.ค.2564 โดยทั่วประเทศมีผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม 11 ล้านคน เป็นการลงทะเบียนใน กทม. 450,000 คน
ทั้งนี้ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวด้วยว่า ที่สถานีกลางบางซื่อ เริ่มทดลองระบบตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. – 6 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2564 หลังมีการประกาศฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนวันละ 10,000 คน แบ่งเป็น 2 ส่วน กลุ่มแรก 5,000 คน ลงทะเบียนผ่านโอเปอเรเตอร์ 4 เจ้า อีก 5,000 คน จะเป็นกลุ่มองค์กร เช่น อาทิตย์ที่ผ่านมาก็จะเน้นฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษา หรือ ครู เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่วงเปิดเทอม
ศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ มีศักยภาพฉีดวัคซีนได้ถึง 20,000 คนต่อวัน และเดิมได้มีการเตรียมความพื้นที่สำหรับรองรับการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเสี่ยงกลุ่มเปราะบางเอาไว้อยู่แล้ว ขอยืนยันว่าศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อพร้อมที่จะดูแลกลุ่มผู้ถูกเลื่อนฉีดวัคซีนกลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 มิ.ย.2564 สามารถเปิดให้ บริการฉีดวัคซีนกับผู้ที่ถูกเลื่อนได้ทันที ซึ่งเบื้องต้นตั้งเป้าไว้รองรับ 2,000 คน ต่อวัน เฉลี่ย 200 คนต่อชั่วโมง โดยขอให้ประชาชนที่ถูกเลื่อนนัดและอยากมาฉีดวัคซีนโทรติดต่อไปที่เบอร์กลางของหมอพร้อม ซึ่งจะมีการรองรับถึง 200 คู่สายเพื่อให้บริการ ทางโอเปอเรเตอร์จะนัดหมาย พร้อมส่ง SMS เป็นรหัสพร้อมระบุวันเวลานัดหมายให้ และให้นำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมาให้ตรงเวลานัดหมาย ไม่ต้องมาก่อนเวลา เนื่องจากจะแออัด
ระบบการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อถือว่ามีความพร้อมมาก โดยในครั้งนี้พร้อมจะเป็นหน่วยสนับสนุน ในการช่วยเยียวยากลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคประจำตัว ที่ถูกเลื่อนนัดผ่านระบบหมอพร้อมในเดือน มิ.ย. โดยจะจัดจุดบริการแบบ One Stop Service ให้บริการกับกลุ่มเปราะบาง คือ กลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 โรคเรื้อรัง ซึ่งจะมีระบบการคัดกรองสุขภาพเช่นเดียวกัน และมีเจ้าหน้าที่บริการตามขั้นตอนต่างๆ ให้ถึงที่โดยไม่ต้องเดินไปตามจุดแบบประชาชนทั่วไป ส่วนวัคซีนที่จะใช้ฉีดนั้นนอกจากการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังมีโควตาจากผู้ที่นัดกับโอเปอเรเตอร์ 4 ค่ายมือถือ แล้วไม่มาฉีด เนื่องจากอาจจะไปฉีดในจุดอื่นแล้ว เพราะมีช่องทางลงทะเบียนหลายช่องทาง ดังนั้นวัคซีนที่จัดไว้สำหรับกลุ่มนี้แล้วไม่มาฉีด ก็จะสามารถจัดสรรมาให้กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังได้เพิ่มเติม
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า วันที่ 16 มิ.ย.2564 จะมีวัคซีนทยอยเข้ามาเติมในระบบ และเมื่อผ่านการตรวจรับรองรุ่นการผลิตเช้า ส่งบ่ายทันที มาบ่ายก็ส่งเช้า เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบในการเลื่อนบริการฉีดในสถานพยาบาล และหากทางโรงพยาบาลมีการปรับเวลาฉีดเร็วตามปกติ จะไม่กระทบต่อแผนการฉีดในสัปดาห์ถัดไป และไม่ต้องมายังสถานีกลางบางซื่อ โดยไม่ขอระบุยอดวัคซีนที่เข้ามา ย้ำว่ามาตามแผน และจัดสรรตามโควต้าทุกพื้นที่ ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ระบุ และไม่มีการเพิ่มโควต้า
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage