ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศ ศบค. เปิดทางให้โรงพยาบาลเอกชน ภาคเอกชน และท้องถิ่น จัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนได้เอง พร้อมกำหนดให้ใช้ 'หมอพร้อม' เป็นแพลตฟอร์มในการบริหารข้อมูลผู้ได้รับการฉีดวัคซีน
----------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เรื่องแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด ระบุสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า เพื่อเร่งรัดให้การขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนตามวาระแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ และประชาชนได้รับประโยชน์โดยเร็ซ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. โดยข้อเสนอของ ศบค. และคณะทำงานพิจารราจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด ได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการ ดังนี้
1.ให้จัดหาวัคซีนโควิดที่มีคุณภาพและมีจำนวนเพียงพอแก่ประชาชนอย่างน้อย 70% ของจำนวนประชากร หรือไม่น้อยกว่า 50 ล้านคน
2.ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนผู้ผลิตัวคซีนป้องในการขึ้นทะเบียนวัคซีนให้เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
3.ให้กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สภากาชาดไทย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือหน่วยงานของรัฐ ที่มีหน้าที่และอำนาจในการให้บริการทางการแพทย์ หรือสาธารณสุขแก่ประชาน ร่วมมือกันจัดหา สั่ง หรือนำเข้าวัคซีนอย่างเร่งด่วน ภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องหรือตามหลัเกณฑ์ที่หน่วยงานนั้นๆ กำหนด
4.เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้นสถานพยาบาลเอกชนและภาคเอกชน อาจจัดหาหรือขอรับการสนับสนุนวัคซีนจากหน่วยงานตามข้อ 3 เพื่อนำมาให้บริการประชาชนหรือบุคลากรในความดูแลได้ตามความเหมาะสม โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยา และต้องพิจารณากำหนดราคาวัคซีนและการให้บริการที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
5.โดยที่ปัจจุบันวัคซีนที่ผลิตหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรยังมีจำนวนจำกัด หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะจัดหาวัคซีนมาให้บริหารแก่ประชาชนในพื้นที่ ให้จัดหาจากหน่วยงานตามข้อ 3 และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหลักเกณฑ์หรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณของ อปท. และต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่ ศบค.หรือนายกรัฐมนตรีกำหนด
การดำเนินการของ อปท.ในแต่ละพื้นที่ให้เป็ฯไปตามแนวทางหรืออยู่ภายใต้กำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการจัดหาวัคซีนของ อปท.ที่มีศักยภาพด้านงบประมาณและรายได้ที่แตกต่างกัน และเพื่อให้กระจายวัคซีนในห้วงเวลาวิกฤติมีความเป็นธรรมมากที่สุด
ให้ อปท.สนับสนุนและให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวมของประเทศ
6.ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทุกภาคส่วนเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลกับระบบแพลตฟอร์มหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนที่ได้รับวัคซีน เพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลเป็นไปอย่างมีระบบและประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/