นายกรัฐมนตรี เผยยอดรวมฉีดวัคซีนทั่วไทย 7 มิ.ย. จำนวน 416,847 โดส ย้ำหลักการกระจายวัคซีนทั่วถึงทุกจังหวัด ยืนยันเป้าเดิม 100 ล้านโดส ขออภัยประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกหรือมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ได้มีการเปิดวาระแห่งชาติเรื่องของการฉีดวัคซีน โดยยอดรวมการฉีดเฉพาะเมื่อวานนี้มีมากกว่า 4 แสนโดสทั่วประเทศ ทำให้ยอดสะสมมีคนได้รับวัคซีนแล้ว 4.6 ล้านโดส แบ่งเป็น เข็มแรก 3.2 ล้านคน เข็มสอง 1.4 ล้านคน ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ได้มอบหลักการนโยบายการกระจายวัคซีนเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคให้มากที่สุด โดยมีหลักการ ดังนี้
1.ทุกจังหวัดได้รับวัคซีนเริ่มต้นพร้อมกัน ไม่มีจังหวัดใดถูกทอดทิ้ง
2.จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรต้องดูจากเงื่อนไขจำนวนประชากร อายุ จำนวนผู้ติดเชื้อ กลุ่มเสี่ยง อาชีพ และการกำหนดเป็นพื้นที่เฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดมากน้อย รวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ทั้งนี้เมื่อได้รับวัคซีนไปแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้จัดสรรวัคซีนให้กับโรงพยาบาลหรือสถานที่ต่างๆเอง
3.ทุกคนที่จองคิวต้องได้รับวัคซีน พยายามจะยึดวันจองเดิมให้ได้มากที่สุดเท่าที่สามารถจะกระทำได้ ทั้งนี้เมื่อดูจากสถานการณ์ยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตนต้องขออภัยหากมีประชาชนอาจจะยังไม่ได้รับความสะดวกมากนักหรือมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่่งขอเน้นย้ำหลักการไปแล้วว่าจะแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ได้โดยเร็วที่สุด
"ข้อจำกัดสำคัญอีกประการหนึ่งที่จำเป็นต้องปรับแก้ คือ การจัดส่งวัคซีน ทุกคนก็ทราบดีว่าไม่ได้มาครั้งเดียวทั้งหมดตามสัญญา แต่จะทยอยจัดส่งเป็นรอบๆ ถือหลักการจัดส่งให้เร็วที่สุดพิจารณาเป็นรายเดือนไปตามวัคซีนที่มีอยู่จริงในมือ ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดอยู่บ้างในระยะแรก โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลต่างๆให้ทราบถึงหลักเกณฑ์การกระจายวัคซีน และข้อจำกัดการได้รับการจัดสรรวัคซีนให้สอดคล้องกับผู้ลงทะเบียนในระบบ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ด้วยความพยายามของรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดหาวัคซีนมาเพิ่มเติมให้มากที่สุด เราไม่ได้รอเฉพาะวัคซีนที่ทำสัญญาไว้แล้วเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าในเดือนต่อๆไปจะมีวัคซีนมามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การบริหารจัดการได้สะดวกยิ่งขึ้น และไม่ต้องการให้ประชาชนถูกเลื่อนคิวอีก นั่นคือเหตุผลหลักและความจำเป็นที่แจ้งให้ทราบ
ส่วนเป้าหมาย 100 ล้านโดสไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราตั้งเป้าหมายไว้อย่างนั้น มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราทำสัญญากับแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์จำกัด 61 ล้านโดสที่จะทยอยส่งมาเช่นเดียวกัน ทำสัญญาซิโนแวค 6 ล้านโดสและมีแผนจะจัดซื้อเพิ่มอีก 8 ล้านโดส รวมถึงคาดว่าจะสามารถทำสัญญากับจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน รวมถึงไฟเซอร์ รวมแล้วประมาณ 25 ล้านโดส รวมถึงจะมีวัคซีนอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับจากการเจรจาทางความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ และในปีนี้หน้าคาดว่าจะมีวัคซีนผลิตโดยคนไทยเองอีกด้วย ก็จะใช้ควบคู่ประกอบกันกับแพทย์แผนไทย สมุนไพรต่างๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลยืนยันว่าจะใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า และนายกรัฐมนตรีได้ย้ำในที่ประชุมเสมอมาให้ระมัดระวังการทุจริต ให้ระมัดระวังการไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรม เพราะมีคำกล่าว คำพูดมามากมายในขณะนี้ ขอให้เข้าใจว่า รัฐบาลหรือ ครม.มีหน้าที่อนุมัติหลักการในการดำเนินการ อนุมัติการใช้จ่ายเงิน ส่วนขั้นตอนดำเนินการเป็นเรื่องหน่วยงาน คณะกรรมการต่างๆต้องรับผิดชอบ ตนเองก็รับผิดชอบในฐานะฝ่ายบริหาร ยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้กับคนไทยทั้งประเทศ ไม่ละเว้นใครแม้แต่คนเดียว ไม่ใช่เฉพาะคนรักคนชอบ เพราะไม่ได้ทำงานแบบนั้น ขอให้ระมัดระวังความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นทำให้บ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ ขอให้รับฟังคำชี้แจงอันเป็นประโยชน์ ข้อเท็จจริงให้ได้ด้วยในการพิจารณาเรื่องของงบประมาณต่างๆในชั้นกรรมาธิการ และยืนยันว่า งบประมาณใดที่มีการแปรญัตติมาแล้วจะนำดำเนินการบริหารในส่วนของหน่วยงานที่ลดน้อยลงตามความจำเป็น เป็นเรื่องที่ฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบต่อไปในอนาคต
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่า ยอดฉีดวัคซีนปูพรมวันแรก 7 มิ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 416,847 โดส ส่งผลให้ยอดรวมทั้งหมดตั้งแต่ 28 ก.พ. - 7 มิ.ย. มีทั้งหมด 4,634,941 โดส
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage