ปปง.ยึดทรัพย์คดี‘วาทิน มุกดา’ กับพวก ส่ง จม. แอบอ้าง ปลอมลายมือชื่อผู้บริหารสำนักงานสลาก มีเลขรางวัล ล็อกหวยได้ เหยื่อโอนเงินให้จํานวนมาก ศาลสั่งจำคุก 20 ปี ทั้ง รถยนต์ เงินฝาก พระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล เหรียญ ธนบัตรที่ระลึก 35 รายการ
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2564 สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) มีคําสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.92 /2564 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ราย นายวาทิน มุกดา จำนวน 33 รายการ มูลค่า 72,999บาท เนื่องจากมีพฤติการณ์ แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ทําการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมด้วยการจัดทําจดหมายแอบอ้างว่าเป็นจดหมายจากสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยแอบอ้างและปลอมลายมือชื่อของผู้บริหารของสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในขณะนั้น จากนั้นจะส่งจดหมายดังกล่าวจ่าหน้าซองไปยังบุคคลต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเนื้อหาของจดหมายจะหลอกลวงว่า มีเลขรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยล็อค) สามารถให้กับผู้สนใจได้ พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์ให้ติดต่อกลับ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อติดต่อกลับไปยังหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว นายวาทิน มุกดา กับพวก จะอ้างตัว เป็นผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และพูดจาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีการว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว นายวาทิน มุกดา จะนําบัตรเอทีเอ็มของบัญชีเงินฝากไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร การกระทําดังกล่าวเป็นเหตุให้ประชาชนหลงเชื่อและถูกหลอกหลวงเป็นจํานวนมาก
ทรัพย์สินที่ยึด ประกอบด้วย พระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล เหรียญและธนบัตรที่ระลึก (ดูตาราง)
ทั้งนี้ รายละเอียดคําสั่ง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว รายนายวาทินดังนี้
ตามที่สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ตามหนังสือที่ ยธ 0833/223 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เรื่อง ส่งเรื่องการกระทําความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน รายนายวาทิน มุกดา ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2563 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทําการจับกุมนายวาทิน มุกดา พร้อมตรวจยึดของกลางจํานวน หลายรายการดําเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวกับการกระทําความผิดกล่าวคือ ระหว่างวันที่ 6 ก.ค. 2559 ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2563 นายวาทิน มุกดา ได้ร่วมกับพวกที่อยู่ระหว่างการสืบสวน ขยายผล ทําการปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมด้วยการจัดทําจดหมายแอบอ้างว่าเป็นจดหมายจากสํานักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาล โดยแอบอ้างและปลอมลายมือชื่อของผู้บริหารของสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในขณะนั้น จากนั้นจะส่งจดหมายดังกล่าวจ่าหน้าซองไปยังบุคคลต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเนื้อหาของจดหมายจะหลอกลวงว่า มีเลขรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยล็อค) สามารถให้กับผู้สนใจได้ พร้อมระบุหมายเลขโทรศัพท์ให้ติดต่อกลับ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อติดต่อกลับไปยังหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว นายวาทิน มุกดา กับพวก จะอ้างตัว เป็นผู้อํานวยการสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และพูดจาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝาก ธนาคารที่มีการว่าจ้างบุคคลอื่นให้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารไว้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีเงินฝาก ธนาคารดังกล่าว นายวาทิน มุกดา จะนําบัตรเอทีเอ็มของบัญชีเงินฝากไปถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคาร การกระทําดังกล่าวเป็นเหตุให้ประชาชนหลงเชื่อและถูกหลอกหลวงเป็นจํานวนมาก สร้างความเสียหายให้กับ ประชาชนและสํานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ศาลอาญามีคําพิพากษาว่า นายวาทิน มุกดา มีความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารและร่วมกันใช้เอกสารปลอม ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ลงโทษจําคุกมีกําหนด 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ในคดีหมายเลขดําที่ อ 1686/2563 หมายเลขแดงที่ อ 1810/2563 กรณีดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายวาทิน มุกดา กับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์กระทํา ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเข้าเป็นลักษณะความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควร เชื่อได้ว่านายวาทิน มุกดา กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดดังกล่าว ต่อมา คณะกรรมการธุรกรรมได้มีคําสั่งที่ ย.80/2564 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว รายนายวาทิน มุกดา กับพวก จํานวน 3 รายการ พร้อมดอกผล มีกําหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นั้น
จากการตรวจสอบรายงานการทําธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทําธุรกรรมของบุคคล รวมทั้ง ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทําความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินในคดีดังกล่าว พบข้อมูลเพิ่มเติมว่านายวาทิน มุกดา เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกจํานวน 32 รายการ ประกอบด้วย พระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล เหรียญและธนบัตรที่ระลึก ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าว เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทพระพุทธรูป พระเครื่อง วัตถุมงคล เหรียญและธนบัตรที่ระลึก อันเป็นทรัพย์สิน ที่ไม่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองสามารถโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคําสั่งให้ยึดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดําเนินการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมา ศาลได้มีคําสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สํานักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าว กลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายวาทิน มุกดา กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทําความผิดและอาจมีการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดําเนินการและการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคําสั่งยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) จํานวน 32 รายการ พร้อมดอกผล มีกําหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2564 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคําสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจําหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดทรัพย์สินตามคําสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าวประสงค์ จะขอให้มีการเพิกถอนคําสั่งยึดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคําขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดดังกล่าวนั้น มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคําสั่งเป็นหนังสือ
ก่อนหน้านี้วันที่ 22 มี.ค.2564 ปปง.มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินนายวาทิน 3 รายการ ประกอบด้วยรถยนต์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวมมูลค่า 110,644.59 บาท