เผยผลวิจัย วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ป้องกันโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ 97 เปอร์เซ็นต์ ด้าน 'ฟาวซี่' แจงวัคซีนผลิตในสหรัฐฯสามารถผลิตสารภูมิคุ้มกันมีผลต่อไวรัสสายพันธุ์อินเดียเช่นกัน ส่วน 'ซีเอ็นเอ็น' รายงานข่าวไทยติดเชื้อโควิดรายวันเกือบหมื่นราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ ประเทศอังกฤษว่าเมื่อประมาณวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผลการศึกษาจากเรียล เวิลด์ ดาต้า (Real World Data) ระบุว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ณ เวลานี้สามารถป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ถึง 97 เปอร์เซ็นต์
โดยที่ไปที่มาของผลการทดลองดังกล่าวนั้นมาจากการศึกษาเชิงสังเกตกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 3,235 รายในประเทศอินเดีย ซึ่งพบว่ามีแค่ 85 รายเท่านั้นที่มีอาการของไวรัสโควิด และมีแค่ 2 นายเท่านั้นที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งการศึกษาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอินทราประศาอพอลโล ในกรุงนิวเดลี
ซึ่งนักวิจัยที่ดำเนินการทดลองกล่าวว่าการศึกษาดังกล่าวนั้นไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตหรือว่าตั้งเข้ารับการรักษาในห้องไอซียูแต่อย่างใด สำหรับกรณีผู้ที่ฉีดวัคซีนดังกล่าว
ส่วนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีการรายงานจาก นพ.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อํานวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ที่ออกมากล่าวถึงค่าความต้านทานของสารภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นกับกรณีของผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียนั้น แสดงให้เห็นว่าวัคซีนทุกชนิดที่มีในประเทศสหรัฐอเมริกามีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากประเทศอินเดียเช่นกัน
ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริกาเองก็ได้มีการรายงานข่าวเมื่อวันที่ 18 พ.ค. เช่นกันในกรณีที่ประเทศไทยนั้นมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวัน เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นจำนวนสูงสุด อยู่ที่ 9,635 รายต่อวัน โดยแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำจำนวน 6,835 ราย
เรียบเรียงจาก:https://uk.movies.yahoo.com/covid-vaccines-appear-prevent-97-120950054.html,https://www.nationalheraldindia.com/international/american-vaccines-effective-against-covid-strain-first-found-in-india-us-officials,https://edition.cnn.com/2021/05/18/asia/thailand-covid-prisons-intl-hnk/index.html
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/