ปปง.ยึดทรัพย์เครือข่ายคดีฟอกเงินค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ 31 รายการ 14.3 ล้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ เงินสด โต๊ะ กวาง เนื้อทรายด้วย หลังรวบชาวจีน หิ้วนอแรด 14 ชิ้น หนัก 11.16 กก. เข้าไทย แอบซุกในลิ้นชักโต๊ะ จนท. ด่านกักพืชประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ฝ่ายหลังรับได้ค่าขน 1.5 แสนส่งชาวเวียตนาม
.............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ วันที่ 12 มี.ค.2564 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.51/2564 และ คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการการฟอกเงิน ที่ ย.54/2564 เรื่องยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายบุญชัย แบกค์ กับพวก รวม 31 รายการ ราคาประเมิน 14,309,713 บาท กรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า
คำสั่งยึดทรัพย์แบ่งเป็น 2 คำสั่ง ได้แก่
1.คำสั่งคณะกรมการธุรกรรม ที่ ย.51/2564 วันที่ 12 มี.ค.2564 เรื่องยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ที่ดินตามโฉนด 9 แปลง มูลค่า 11,064,853 บาท มีชื่อ นายบุญชัย แบกค์ เป็นผู้ครอบครอง จำนวน 3 แปลง ใน ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม และ ต.นาราชความ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ,น.ส.ปริญานาถ ราชบัญดิษฐ เป็นผู้ครอบครอง 4 แปลง ใน ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม และ ใน ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พร้อมส่งปลูกสร้าง ,น.ส.กิมหลั่น เสนชัย 2 แปลง ใน ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง (ดูเอกสาร)
2.คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการการฟอกเงิน ที่ ย.54/2564วันที่ 12 มี.ค.2564 เรื่องยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) จำนวน 22 รายการ ราคาประเมิน 3,244,860 บาท เงินสด พระเครื่องโต๊ะไม้ อยู่ในชื่อ น.ส.ปริญานาถ ราชบัญดิษฐ เป็นผู้ครอบครอง 15 รายการ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา/นายบุญชัย แบกค์ เป็นผู้ครอบครอง 1 รายการ (รถยนต์), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา/ น.ส.ปริญานาถ ราชบัญดิษฐ เป็นผู้ครอบครอง 1 รายการ (รถยนต์),นายเฉลิมพงษ์ เข็มขาว 1 รายการ (รถยนต์) ,นายระพีพร เจาะจง 1 รายการ (รถยนต์), นายธนาวุฒิ ประจักษ์รัตนกุล 1 รายการ (รถยนต์) และ น.ส.ปริญานาถ ราชบัญดิษฐ 2 รายการ กวางพันธุ์ผสม 16 ตัว และเนื้อทราย 1 ตัว (ดูเอกสาร)
ทั้งนี้ที่มาของคำสั่งยึดทรัพย์ นายบุญชัย แบกค์ ระบุว่า ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจาก สถานีตํารวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามหนังสือที่ ตช 0016.3(14)(37)/105 ลงวันที่ 24 มกราคม 2561 เรื่อง ประสานงานในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งเป็น กรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร และความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ตรวจสอบ รายชื่อผู้โดยสารซึ่งเดินทางโดยเครื่องบินสายการบินเอมิเรตส์จากประเทศแอฟริกาใต้มายังประเทศไทย พบรายชื่อนายเชน ฮองเซน (MR.CHEN HONGSEN) สัญชาติจีน บุคคลที่อยู่ในกลุ่มผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับ การลักลอบค้าสัตว์ป่าและซากสัตว์ป่าคุ้มครองข้ามชาติ และจากการตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง ของนายเชน ฮองเซน (MR.CHEN HONGSEN) ด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายนอแรด อยู่ในกระเป๋าดังกล่าว ต่อมานายเชน ฮองเซน (MR.CHEN HONGSEN) มารับกระเป๋าที่สายพานรับกระเป๋า จากนั้นได้นํากระเป๋าดังกล่าวไปที่ห้องปฏิบัติการด่านกักพืชประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเมื่อออกจากห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงทําการตรวจค้นในประเป๋าแต่ไม่พบนอแรด ซึ่งขณะนั้น พบนายนิกร วงพระจันทร์ เจ้าหน้าที่ด่านกักพืชประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องดังกล่าว จึงขอตรวจค้นภายในห้อง พบนอแรดห่อกระดาษตะกั่ว รวมจํานวน 14 ชิ้น น้ำหนักรวม 11.16 กิโลกรัม อยู่ในลิ้นชักตู้เหล็กซึ่งตั้งอยู่ในห้อง โดยนายนิกร วงพระจันทร์ รับว่าได้รับจ้างนํานอแรดดังกล่าวออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อส่งมอบต่อให้นายเบื้อก วัน ฮอก (MR.BACH VAN HOA) สัญชาติเวียดนาม โดยได้รับเงินค่าจ้างจํานวน 150,000 บาท นายเบื้อก วัน ฮอก (MR.BACH VAN HOA) ได้เดินทาง มารับนอแรด พร้อมนำเงินค่าจ้างจํานวนดังกล่าวมาส่งมอบ เจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ทําการจับกุมและยึดเงินจํานวนดังกล่าว และจากการขยายผล พบว่า นายบุญชัย แบกค์ เป็นผู้สั่งการและจ้างบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อนํานอแรดเข้ามาในประเทศไทย และจากการ สืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏหลักฐานว่านายบุญชัย แบกค์ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์ มีประวัติและพฤติการณ์เกี่ยวกับการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งมีลักษณะเป็นเครือข่ายการค้าสัตว์ป่า ข้ามชาติ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (7) และ (15) แห่งพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายบุญชัย แบกค์ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 ที่ประชุม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดําเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคําสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่ ม.186/2561 ลงวันที่ 27 เมษายน 2561 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทําความผิด รายนายบุญชัย แบกค์ กับพวก คําสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน ลับ ที่ ม.18/2563 ลงวันที่ 7 มกราคม 2563 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด (เพิ่มเติม) รายนายบุญชัย แบกค์ กับพวก และคําสั่ง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.316/2563 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด (เพิ่มเติม) รายนายบุญชัย แบกค์ กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตรวจสอบรายงานการทําธุรกรรมหรือข้อมูล เกี่ยวกับการทําธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่านายบุญชัย แบกค์ กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทําอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (7) และ (15) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้อง สัมพันธ์กับผู้กระทําความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทําธุรกรรม หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าว ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด จํานวน 20 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็น ทรัพย์สินสามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย และอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน สิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิ ครอบครองโดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดําเนินการทางนิติกรรมโอน เปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคําสั่งให้ยึด และอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดําเนินการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคําสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน สํานักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุ อันควรเชื่อได้ว่านายบุญชัย แบกค์ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดและอาจมีการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว