ให้ข้อมูลแบบหนังคนละม้วน! ปมก่อสร้าง 'สะพานลิงเดิน' จ.สุราษฎร์ฯ นิติกร สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 แจงเหตุทำหนังสือแจ้ง อบต.ลีเล็ด ทำเรื่องขออนุญาตก่อสร้างย้อนหลัง เป็นเพราะกรมป่าไม้ได้รับคำขอจาก อบต.เมื่อช่วงปลายปี 63 ยันถ้าอ้างว่าไม่รู้เรื่องจริง ก็ให้รับหน้าที่ไปตรวจสอบโครงการฯ หาตัวหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงมา
.................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ร้องเรียนการก่อสร้างสะพานทางเดินไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่และอาจจะส่อไปในทางที่ทำให้ราชการเสียหายไม่มีประชาชนไปใช้คงมีแต่ลิงเดินจนชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า "สะพานลิงเดิน" และหลังจากเรื่องนี้ปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณะไปแล้ว มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานเคลื่อนไหวข่มขู่ประชาชน ทำให้เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่อ่าวไทย-อันดามัน เข้ายื่นเรื่องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ป.ป.ช. ภาค 8 ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เป็นทางการนั้น
ขณะที่ นายเลิศเชาว์ ยศเมฆ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ขณะที่ได้มีหนังสือมากจากสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ อบต.ขออนุญาตย้อนหลังการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่ป่าที่ยังไม่ได้ขออนุญาตในการใช้พื้นที่ไปยังกรมป่าไม้ผ่านสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 แต่ อบต.ไม่ได้ขอใช้สะพานลิงเดินดังกล่าว เนื่องจากที่ อบต.ลีเล็ดไม่มีฐานข้อมูลอะไรเลย ไม่มีแบบ ไม่มีโครงการรายละเอียดใดๆเลย จึงไม่ทราบว่าจะขออนุญาตได้อย่างไร จึงไม่ได้ขออนุญาตและตอบหนังสือไปยัง สำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว
(อ่านข่าวประกอบ : สะพานคอนกรีต จ.สุราษฎร์ฯ ถูกทิ้งร้าง ไม่รู้หน่วยงานไหนสร้าง ทำลายป่าโกงกาง, ชาวบ้านโดนกลั่นแกล้ง! เครือข่ายอนุรักษ์ฯ ลุยยื่น ป.ป.ช.สอบสะพานลิงเดิน จ.สุราษฎร์ฯ,อบต.โดนแจ้งเซ็นขออนุญาตสร้างย้อนหลัง! ป.ป.ช. ลุยสอบ 'สะพานลิงเดิน' จ.สุราษฎร์ฯ แล้ว)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายจงรัก ทรงรัตนพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เบื้องต้นได้มีการมอบหมายให้ นาย จารุวัฒ เต็มไพโรจน์ นิติกร สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 มาให้ข้อมูลแทน
นาย จารุวัฒ ชี้แจงว่า ทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ได้มีการแจ้งให้ อบต.ลีเล็ด ทำเรื่องขออนุญาตย้อนหลังกับทางป่าไม้ที่ 11 จริง เพราะเป็นการใช้พื้นที่ป่าไม้โดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วในการใช้พื้นที่ของป่าไม้หากมีการใช้แล้วไม่ได้ขออนุญาตจะต้องมีการทำหนังสือขออนุญาตย้อนหลังให้ถูกต้องตามกระบวนการ แต่ด้วยว่าสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ในตอนนี้ทำหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ด้วยกัน 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และระนอง ซึ่งมีคำขออนุญาตทั้ง 3 พื้นที่กว่า 2,246 คำขอ แบ่งเป็น สุราษฎร์ธานี 1,066 คำขอ ชุมพร 445 คำขอ และระนอง 735 คำขอ จึงทำให้การดำเนินการตามเรื่องกรณี “สะพานลิงเดิน” ที่ตำบลลีเล็ดล่าช้า
"การใช้พื้นที่ป่าทำโครงการสะพานลิงเดินที่ตำบลลีเล็ด ทางกรมป่าไม้ได้รับเรื่องเมื่อปลายปี 63 ซึ่งขณะนี้ อบต.ลีเล็ด แจ้งกับทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ว่ากำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการและขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลเอกสาร เนื่องจากตัวโครงการนั้นเกิดขึ้นนานแล้วและมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้"
ส่วนในกรณีที่ผู้บริหาร อบต.ลีเล็ด ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นายจารุวัฒ ยืนยันว่า "ทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ได้รับเรื่องคำขอนี้จากทางอบต.ลีเล็ดเมื่อปลายปี 2563 ทางอบต.เป็นผู้มาขอยื่นเรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องจะมาขอยื่นได้อย่างไร เพราะทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 มีหน้าที่ที่ปลายเหตุ คือ มีหน้าที่รับเรื่อง ทำการตรวจสอบและแจ้งกลับไปยัง อบต.ลีเล็ดว่าในคำขอนั้นขาดเอกสารอะไรบ้าง และให้ไปทำการเตรียมเอกสารมาให้ครบทางสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 จึงจะดำเนินการให้ได้
"ถ้าหากทางอบต.ไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็จะต้องเป็นผู้ไปทำการตรวจสอบตัวโครงการและหาว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการฯ นี้" นายจารุวัฒระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/