นายกรัฐมนตรี ยอมรับความบกพร่อง ไม่สวมหน้ากากอนามัยจนถูกเปรียบเทียบปรับ ขอทุกคนทำความเข้าใจกฎหมาย สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน แจงสั่งแก้ปัญหาผู้ป่วยตกค้าง 1.4 รายช่วงสงกรานต์แล้ว ยันจัดหาวัคซีน 100 ล้านโดสให้คนไทย 50 ล้านคนภายในสิ้นปี 64
------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีถูกเปรียบเทียบจากการไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะเข้าร่วมประชุมเมื่อวานนี้ ว่า เห็นข่าวแล้วไม่สบายใจ จึงได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้เขาเข้ามาเปรียบเทียบปรับ จึงได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาพบ ยอมรับว่าบกพร่อง และเรื่องจบไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดต้องเข้าใจกันว่ามีกฎหมายหลายตัวด้วยกันที่เกี่ยวข้องกับมาตรการต่างๆ วันนี้ ขอให้ยืนยันว่าหลักการคืออะไร ทำอย่างไรจะไม่ถูกปรับเมื่อออกนอกเคหสถาน ที่สำคัญคือสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แม้ว่าจะอยู่คนเดียวก็ตาม ในวัดหากอยู่มากกว่าหนึ่งคนก็ต้องสวมหน้ากาก จัดรายการในสตูดิโอก็ต้องสวมหน้ากากทุกคน เด็กเล็กต่ำกว่า 2 ปีอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากาก เหล่านี้คือพื้นฐาน ขอให้ไปทำความเข้าใจกับกฎหมายที่มีอยูในปัจจุบัน
"มีหลายคนถามว่าขับรถต้องใส่หน้ากากหรือไม่ ถ้านั่งมาหลายคนก็ต้องใส่ ผมนั่งในรถก็ต้องใส่มาตลอดทาง เพราะไม่ต้องการแพร่เชื้อให้กับคนอื่นหรือแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัวเช่นกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม รพ.สนามเอราวัณ 2 ที่ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก ขอชมเชยว่ามีการบริหารจัดการที่ดี ขอย้ำว่าผู้ป่วยโควิดมี 3 สีคือ แดง เหลือง เขียว โดยสีเขียวคือผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อยจะถูกส่งไป รพ.สนามหรือ hospitel ส่วนสีเหลืองที่มีอาการปานกลางจะถูกส่งไปโรงพยาบาลทั่วไป จำเป็นต้องจัดหาเตียงว่าง และสีแดงที่เป็นผู้ป่วยอาการรุนแรงต้องได้รับการรับตัวและส่งไปยังโรงพยาบาลเฉพาะทางอย่างเร็วที่สุด วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการเรื่องระบบข้อมูลผ่านสายด่วนต่างๆ ได้อาสาสมัครมาช่วยกันรับสายเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างดีที่สุด วันนี้ได้จัดการเรื่องการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการฉีดวัคซีนที่ได้รับเพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่พบว่ามีผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียวไม่ถูกส่งไปโรงพยาบาลสนามนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ต้องมีการคัดกรองให้แน่ใจว่าอยู่ในเกณฑ์สีเขียว และจะถูกนำเข้า รพ.สนาม ฉะนั้นการติดต่อสอบถามทางออนไลน์หรือโทรศัพท์ อาจจะยังไม่ทั่วถึง ท่านสามารถไปดูได้เลยว่า รพ.สนามอยู่ที่ไหน หากคิดว่าเข้าเกณฑ์ ขอให้เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ เขาพร้อมจะรับฟัง บางทีการตรวจสอบขั้นต้นมาจากภาคเอกชนไม่ได้รับรายงานเข้ามา ทำให้ขาดความต่อเนื่อง ขอความร่วมมือสถานที่ตรวจคัดกรองของเอกชนด้วย ต้องแจ้งข้อมูลว่าจะมีคนติดเชื้อหรือไม่อย่างไร ให้เข้าสู่ระบบสาธารณสุขด้วย
“เรื่องรถขนส่งผู้ป่วยไม่เพียงพอได้สั่งการเพิ่มเติมแล้ว และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสายด่วนไม่พอ รถไม่พอ และยืนยันว่าจะรีบพยายามเคลียร์สถานะแดง เหลือง เขียวให้ได้ เพื่อให้รู้ความต้องการใช้ยานพาหนะ และวันนี้ได้เพิ่มของกระทรวงกลาโหมมาช่วยแล้วส่วนหนึ่ง หากเจ้าหน้าที่ไม่พอ ได้สั่งการให้ใช้ทหารเสนารักษ์เข้ามาช่วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาเรื่องผู้ป่วยที่ตกค้างอยู่ในโรงพยาบาล ประมาณ 1.4 พันราย ซึ่งได้รับการแก้ไขและส่งตัวแล้วใน 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ป่วยตกค้างตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนว่า วันนี้ให้กระทรวงการต่างประเทศพยายามติดต่อกับรัฐบาลด้วยกัน ขณะเดียวกันภาคธุรกิจเอกชนก็ติดต่อกับบริษัทผู้ผลิต หากทำสำเร็จก็จะได้วัคซีนเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยวันนี้มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสไปแล้วเกือบ 2 แสนคน ที่เหลือก็ฉีดไปแล้วมากกว่า 1 ล้านโดส ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการต่อไปให้เร็วที่สุด หากได้รับเพิ่มมากขึ้นก็จะกระจายวัคซีนของรัฐไปยังสถานพยาบาลของเอกชนให้ช่วยฉีดต่อไปด้วย โดยเราตั้งเป้าจะหาวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสเพื่อฉีดคนไทย 50 ล้านคนภายในปี 2564 ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจและทำงานเรื่องนี้มาโดยตลอด
"วันนี้วัคซีนเป็นสินค้าที่ถูกแย่งกันในทุกภูมิภาค ก็ต้องติดต่อบางประเทศที่เขามีเหลืออยู่ว่าจะทำอย่างไร จะขอความร่วมมือเขาได้หรือไม่ ก็ต้องประสานกันระหว่างรัฐบาล วันนี้ทุกคนทำงานเต็มขีดความสามารถแล้ว ผมคิดว่านะ ไม่ว่าจะแพทย์ พยาบาล ภาครัฐเอก เอกชน รวมถึง อสม. ทุกเสียสละทำงานหนักเพื่อเราทุกคนในเวลานี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า อย่างไรก็ตามขอให้กำลังใจรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข , รมช.สาธารณสุข , ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ถือเป็นด่านหน้าเป็นหลักของรัฐบาล อยางไรก็ตามขอความร่วมมือจากกลุ่มแพทย์ต่างๆ ขอให้เข้าใจว่าเรากำลังบริหารราชการกันอย่างไร เราน่าจะส่งเสริมกันมากกว่าที่จะขัดแย้งกัน ตนเคารพทุกท่าน ไม่ว่าจะคุณหมอจากที่ไหนก็ตาม ไม่อย่างนั้นจะถูกมองว่าเราบริหารไม่ได้หรืออย่างไร ขอยืนยันว่าบริหารได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไรกับกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage