เผยความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดไทย มีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 4 ราย ทำให้ยอดรวมเพิ่มเป็น 121 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อ/ป่วยใหม่อยู่ที่ 2,070 ราย เฉพาะติดในปท. 2,062 ทำยอดรวมสะสมพุ่ง 50,183 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 30,189 ราย ขณะที่คาดการณ์เตียงอาจมีรองรับทั้งประเทศได้ 19 วัน - ส่วนกทม.ไม่เกิน 8 วัน
.........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ตามข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ เวลา 00.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา มีรายงานการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย ทำให้จำนวนรวมผู้เสียชีวิตปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 121 ราย
ส่วนจำนวนผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อสะสมใหม่อยู่ที่ 2,070 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย เป็นผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ 2,062 ราย โดยจำนวนผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศนั้น มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการรัฐ จำนวน 1,902 ราย ส่วนที่เหลือมาจากการทำทำงานเชิงรุก ทั้งการค้นหาในชุมชน โรงงาน สถานที่เสี่ยง 160 ราย
จากรายงานข้อมูลใหม่ดังกล่าว ทำให้จำนวนรวมผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศไทย ทั้งหมดอยู่ที่ 50,183 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 30,189 ราย กำลังรักษาตัว 19,873 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 15,642 ราย อยู่รพ.สนามและอื่นๆ 4,231 ราย
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่กำลังรักษาตัวอยู่ มีผู้ป่วยอาการหนัก 352 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ถึง 91 ราย
@ เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย เป็นผู้สูงวัย-วัยกลางคน-มีโรคประจำตัว
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 4 ราย ผู้เสียชีวิตรายที่ 118 เป็นชาย อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ กทม. มีประวัติเดินทางไปภูเก็ต ก่อนจะเริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และถ่ายเหลว ต่อมาอาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบ เหนื่อยหอบ แพทย์จึงให้ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่อาการกลับทรุดลง และเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 119 เป็นชาย อายุ 74 ปี อาศัยอยู่สงขลา มีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน เมื่อตรวจพบเชื้อโควิด จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ. ก่อนจะพบปอดอักเสบมากขึ้น หัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ แต่ไม่เป็นผล กระทั่งเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 120 เป็นหญิง อายุ 29 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า ต่อมามีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย ตรวจพบเจอเชื้อโควิด จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ. ต่อมามีภาวะหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบรุนแรง และเสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตรายที่ 121 เป็นชาย อายุ 83 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง และโรคหัวใจ มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า ทำให้มีเริ่มมีอาการไอ มีเสมหะ พบผลตรวจหาเชื้อเป็นบวก จึงเข้ารับการรักษาที่ รพ. แต่อาการไม่ดีขึ้น พบปอดอักเสบรุนแรง ต้องใส่ท่อเครื่องหายใจ และเสียชีวิต
@ 10 อันดับจังหวัด มีจำนวนผู้ติดรายใหม่สะสมสูงสุด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 จังหวัดสะสมสูงสุดว่า ระหว่างวันที่ 1-23 เม.ย.2564 ประกอบด้วย กทม. 5,515 ราย เชียงใหม่ 2,834 ราย ชลบุรี 1,665 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 941 ราย นนทบุรี 940 ราย สมุทรปราการ 905 ราย สมุทรสาคร 544 ราย นราธิวาส 467 รายปทุมธานี 410 ราย และสงขลา 365 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย ประกอบด้วย ตุรกี 1 ราย อินเดีย 5 ราย ปากีสถาน 1 ราย และมาเลเซีย 1 ราย
ทั้งนี้ มีผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มอีก 99,985 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 87,465 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 12,520 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 964,825 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 834,082 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 130,743 ราย
@ สถานดูแลผู้สูงอายุ ติดเชื้อแล้ว 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีการรายงานการระบาดในสถานดูแลผู้สูงอายุ โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ 3 ราย มีจุดเริ่มต้นมาผู้ช่วยพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุติดเชื้อมาจากสามี ทำให้ตอนปฏิบัติหน้าที่ในการอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม และให้อาหารทางสายยาง ซึ่งต้องมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วย จึงพบการติดเชื้อแพร่กระจายไปจำนวนข้างต้น ทั้งนี้ทางสถานพยาบาลดังกล่าว ได้มีการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมแล้ว พร้อมทั้งมีการทำความสะอาด และจะมีการกำหนดมาตรการสำหรับสถานรับดูแลผู้สูงอายุ เตรียมความพร้อมหากพบผู้สูงวัยติดเชื้อโควิด ในสถานดูแลต่อไป ขณะเดียวกัน ทางศบค.ได้มีการปรึกษาหารือในประเด็นดังกล่าว และจะมีการกำหนดมาตรการสำหรับสถานรับดูแลผู้สูงอายุ สำหรับการพบผู้สูงวัยติดเชื้อโควิดให้ทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชนด้วย
@ ศบค.คาดติดเชื้อพุ่ง 1.5 พันคนต่อวัน อาจมีเตียงรองรับทั่วไทยแค่ 19 วัน - ส่วนกทม.ไม่เกิน 8 วัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวขออภัย กรณีประชาชนไม่สามารถติดต่อสายด่วนได้ โดยกล่าวว่า ทางประธานศบค.ชุดเล็ก มีการปรับระบบรับเรื่องแล้ว ขณะนี้มีผู้ป่วยตกค้าง 1,423 ราย ยืนยันเดินหน้าลดผู้ป่วยสีเขียวตกค้าง และแก้ปัญหาเตียงไม่พอสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง หาทางเพิ่มเตียงให้อยู่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และกทม. กำลังเร่งหาทางแก้ไขปัญหาเตียงรองรับผู้ป่วยในสถานการณ์การระบาดของโควิดที่ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งได้คาดการณ์การใช้เตียงของประชาชนว่า ขณะนี้เตียงไอซียูมีทั้งหมด 262 เตียง ใช้ไป 193 เตียง เหลือว่างอยู่ 69 เตียง และห้องแยกความดันลบมีเตียง ทั้งหมด 479 เตียง ใช้ไป 410 เตียง เหลือว่างอยู่ 69 เตียง หากมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,500 รายต่อวัน ทั้งประเทศจะต้องใช้เตียงไอซียู 52 เตียงต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะรองรับได้ประมาณ 19 วัน หรือราว 3 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนกทม.นั้น จะใช้เตียง 12-13 เตียงต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะมีเตียงรองรับได้แค่ 6-8 วันข้างหน้า
"ปัญหานี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รับไปบริหารจัดการ เนื่องจาก กทม. เหลือเวลาสั้นมาก โดยอาจจะมีการแบ่งเตียง เพิ่มจำนวนเตียงเข้าไปในห้อง หรืออาจจะเกิดการใช้พื้นที่ไอซียูให้กว้างขึ้น ปรับวอร์ดอื่นๆ ให้แคบลง รวมถึงอาจเกิดหอไอซียูรวม หรือไอซียูสนาม เพื่อรับมือสถานการณ์ พร้อมยืนยันจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
@ รพ.จุฬาฯ รับอาสาสมัครฉีดวัคซีนไทย ChulaCov19
ขณะที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ประกาศรับอาสาสมัครสุขภาพดี 2 กลุ่มเป้าหมาย ผู้ใหญ่ อายุ 18-55 ปี และผู้สูงวัย อายุ 65-75 ปี ทดลองวัคซีน ChulaCov19 จำนวน 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 จะเว้นระยะห่างจากเข็มแรกราว 21 วัน และติดตามอาการหลังฉีด 1 ปี
@ ทั่วโลกป่วย 884,273 ราย สะสม 145.32 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 884,237 ราย รวม 145,324,030 ราย อาการหนัก 110,090 ราย หายป่วย 123,309,918 ราย เสียชีวิต 3,085,061 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 67,070 ราย รวม 32,669,121 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 896 ราย รวม 584,226 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 332,503 ราย รวม 16,257,309 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,256 ราย รวม 186,928 ราย บราซิล พบเพิ่ม 49,344 ราย รวม 14,172,139 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,070 ราย รวม 383,757 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 105 ของโลก
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/