ไม่'เคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์'! ปิดผับ - จำกัดเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ-ห้าง-ร้านอาหาร

มติที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ยันไม่ล็อกดาวน์-ไม่เคอร์ฟิว แต่ให้ยกระดับคุมเข้ม ปรับโซนสีแดง 18 จังหวัด ปิดสถานบันเทิง จำกัดเวลาเปิดร้านสะดวกซื้อ-ห้างสรรพสินค้า-ร้านอาหาร ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน งดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน

..........................................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การโควิด หรือ ศบค. ครั้งที่ 5/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค.เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการยกระดับการควบคุมโรคโควิด และปรับโซนสีของพื้นที่ เพื่อให้สอดรับกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด หลังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้มีการประกาศ (ร่าง) ข้อกำหนดเพิ่มเติม มีผลนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2564 เป็นต้นไป ดังนี้

1. ห้ามจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ได้แก่ ห้ามใช้อาคาร หรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภท เพื่อการจัดการเรียน การสอบ การฝึกอบรม และห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ หรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดเป็นสถานกักกันโรค

2. ปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักรชั่วคราวอย่างน้อย 14 วัน ได้แก่ สถานที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด

3. กำหนดพื้นที่ตามสถานการณ์ แบ่งตามเขตพื้นที่หรือโซนสี ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง จำนวน 18 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม ภูเก็ต นครราชสีมา นนทบุรี สงขลา ตาก อุดรธานี สุพรรณบุรี สระแก้ว ระยอง และขอนแก่น และพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม จำนวน 59 จังหวัดที่เหลือ

4. มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามเขตพื้นที่ สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง ให้จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มบริโภคในร้านได้ไม่เกิน 21.00น. และสามารถจำหน่ายในลักษณะให้นำกลับไปบริโภคที่อื่นได้จนถึง 23.00น.

สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการได้ตามเวลาปกติ จนถึงเวลา 21.00น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

ส่วนร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาเกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดได้ตามเวลาปกติไม่เกินเวลา 23.00 น. สำหรับร้าน หรือสถานที่ซึ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00น.

นอกจากนี้ สนามกีฬา หรือสถานที่เพื่อออกกำลังกาย สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00น. และสามารถจัดการแข่งขันได้ โดยให้จำกัดจำนวนผู้ชมในสนาม

ขณะที่ในพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00น. ส่วนการจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้น ขอให้ห้ามการดื่มภายในร้าน และห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามเวลาปกติไม่เกินเวลา 23.00 น. โดยให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

5. ขอความร่วมมือให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทาง โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางเข้าในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้งนี้ได้มอบให้กระทรวงคมนาคม หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแลหารให้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยต้องมีการจัดระบบ และระเบียบต่างๆ เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและแนวปฏิบัติตามพื้นที่สถานการณ์ที่ ศปก. และ ศบค. กำหนด

6. ขอความร่วมมือประชาชนเลื่อน หรืองดการจัดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ก่อน

7. ขอความร่วมมือให้เจ้าของกิจการภาคเอกชนพิจารณาการปฏิบัติงาของบุคลากร โดยอาจให้ทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home การสลับวันหยุด หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม

8. ขอให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง และ ศบค. เร่งจัดหาสถานที่รองรับ ดูแลรักษา และแยกกัก กักกันตัวผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าติดเชื้อ

9. มอบให้ ศปก. และ ศบค. พิจารณาและประเมินสถานการณ์ เพื่อการปรับเปลี่ยนมาตรการคุมเข้มตามพื้นที่ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการกทม. ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจตามกฎหมาย ในการสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการหรือแนวปฏิบัติที่นายกรัฐมนตรีกำหนด

อ่านข่าวประกอบ:

เจ็บปวดทุกครั้งที่ใช้มาตรการคุมโควิด! 'บิ๊กตู่' ยืนยันไม่เคอร์ฟิว ไม่ล็อกดาวน์

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage