ราชกิจจาฯประกาศใช้พ.ร.ก.ช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจจากโควิด 3.5 แสนล้านบาท ปล่อยกู้ซอฟต์โลน 2.5 แสนล้านบาท-พักทรัพย์พักหนี้ 1 แสนล้าน
......................
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 กรอบวงเงินไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท โดยพ.ร.ก.ดังกล่าวได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่
1.มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ วงเงิน 2.5 แสนล้านบาท โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีอำนาจให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงิน เพื่อให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงิน หรือมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินที่จะให้กู้ยืมไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือจำนวนมากกว่านั้นตามที่ ธปท.กำหนด คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 5% ต่อปี โดย 2 ปีแรกคิดดอกเบี้ย 2% ต่อปี ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก
ทั้งนี้ ให้สถาบันการเงินชำระคืนเงินที่ได้กู้ยืมดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่ธปท.ภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ได้รับเงินกู้ หรือระยะเวลายาวกว่านั้นตามที่ธปท.ประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบปัญหาหรือได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากโควิด-19 ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีอำนาจในการค้ำประกันสินเชื่อที่สถาบันการเงินให้ผู้ประกอบธุรกิจกู้ยืมตามพ.ร.ก.นี้ และหากบสย.มีภาระต้องชำระหนี้อันเป็นผลให้ขาดทุนเป็น จำนวนเท่าใดให้กระทรวงการคลังชดใช้ โดยให้สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณชดใช้เป็นรายปีให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี
2.มาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยให้ ธปท. มีอำนาจให้กู้ยืมเงินแก่สถาบันการเงินเพื่อใช้ในการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด
เช่น ต้องเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับโอนทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันจากผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินก่อนวันที่ 1 มี.ค.2564 เพื่อชำระหนี้ที่ค้างชำระกันอยู่ตามที่ตกลง และกำหนดเงื่อนไขว่าผู้ประกอบธุรกิจ หรือเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันฯ สิทธิซื้อทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันคืนได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งต้องไม่เกิน 5 ปี ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิเช่าทรัพย์สินนั้นจากสถาบันการเงินเพื่อไปประกอบธุรกิจตามสภาพแห่งทรัพย์สินได้
ส่วนราคาทรัพย์สินที่สถาบันการเงินจะขายคืนให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันฯ ต้องไม่สูงกว่าราคาที่รับโอนไว้รวมกับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ ธปท. กำหนดหักด้วยค่าเช่า
ทั้งนี้ เมื่อสถาบันการเงินทำสัญญารับโอนทรัพย์สินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว สถาบันการเงินมีสิทธิกู้ยืมเงินจากธปท.ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ธปท.ประกาศกำหนดภายใน 2 ปีนับแต่วันที่พ.ร.ก.นี้ใช้บังคับ และให้สถาบันการเงินชำระคืนเงินที่ได้กู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยแก่ ธปท. ภายใน 5 ปีนับแต่วันที่ได้รับเงินกู้ หรือระยะเวลายาวกว่านั้นตามที่ ธปท.
สำหรับมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น หรือโกดังเก็บหนี้นั้น ธปท.กำหนดชื่อโครงการว่าฏโครงการ ‘พักทรัพย์ พักหนี้’
อ่านประกอบ :
ให้กู้ยาว 5 ปี! ครม.ปลดล็อก ‘ซอฟต์โลน’ อุ้มเอสเอ็มอี-เทแสนล.หนุน ‘พักทรัพย์ พักหนี้’
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/