ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ‘ปตท.’ ไฟเขียวตั้ง 3 กรรมการฯใหม่ ‘ผยง-จตุพร-ชโยดม’ ขณะที่ ‘ซีอีโอปตท.’ แจง 6 ธุรกิจใหม่ สร้างการเติบโตยั่งยืนระยะยาว ยันมีเงินทุน 'พร้อม' หนุนบริษัทลูกลงทุน-ร่วมลงทุนพันธมิตร
...................
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปตท. ประจำปี 2564 โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการฯบริษัทรวม 5 ราย ได้แก่ นายผยง ศรีวณิช เป็นกรรมการอิสระ ดำรงตำแหน่งแทน ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ,นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นกรรมการอิสระ ดำรงตำแหน่งแทนดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ,รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี เป็นกรรมการอิสระ ดำรงตำแหน่งแทนนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค
นายดนุชา พิชยนันท์ เป็นกรรมการอิสระ ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็นกรรมการ ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานผลการดำเนินการของบริษัทฯในรอบปี 2563 ซึ่งบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 37,765.81 ล้านบาท ลดลง 59% เมื่อเทียบกับรอบปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 92,950.60 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 28,563 ล้านบาท โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.18 บาท และจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนหลังอีกหุ้น 0.82 บาท โดยจ่ายเงินปันผลวันที่ 30 เม.ย.2564
ทั้งนี้ การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง แต่ได้ประชุมผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอร์เรนซ์แทน เนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้บริหาร ปตท. รายหนึ่งที่ติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องทำการกักตัว
@ซีอีโอมั่นใจ ‘ปตท.’ แข็งแกร่ง-พร้อมหนุนบริษัทลูกลงทุน
นายอรรถพล กล่าวกับผู้ถือหุ้นว่า ปีนี้ ปตท. ได้ปรับวิสัยทัศน์ใหม่เป็น ‘Powering life with future energy and beyond’ หรือ การขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต จากเดิมที่มีวิสัยทัศน์ว่า ‘Thai premier league multinational energy company หรือ บริษัทพลังงานไทยข้ามชาติชั้นนำ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อขับเคลื่อนทุกชีวิต ทั้งชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้เติบไปได้ด้วยกันอย่างยั่งยืนและสมบูรณ์
พร้อมทั้งจะเน้นการลงทุนในพลังงานรูปแบบใหม่ (new energy) และธุรกิจใหม่ (new business) ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต และสอดรับกับการกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก และการเปลี่ยนผ่านในด้านพลังงาน ขณะที่การลงทุนธุรกิจพลังงานในปัจจุบันจะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อปรับไปสู่การผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงในระยะยาว สร้างความสามารถการแข่งขันให้ธุรกิจ ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
“กลุ่มปตท. มีการจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และคงให้แต่ละบริษัทฯมีบทบาทเป็นแกนนำในการลงทุนแต่ละธุรกิจ ทั้งธุรกิจพลังงานในปัจจุบัน และธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจ New business S-curve เพื่อให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก มุ่งเน้นการสร้างพลังร่วมกันในกลุ่ม และการร่วมมือกับผู้ร่วมทุนอื่น เพื่อให้เข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วและแข่งขันได้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย” นายอรรถพลกล่าว
ทั้งนี้ ปตท. ในฐานะเป็นบริษัทแม่ มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพ และมีทรัพยากรที่พร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนของกลุ่ม ปตท. ตามความจำเป็นและความเหมาะสม เช่น การร่วมลงทุน และสนับสนุนการลงทุนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้กลุ่ม ปตท. เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงมีนโยบายรักษาอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ให้อยู่ในกลุ่มระดับลงทุนหรือ Investment Grade เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นว่า ปตท.และกลุ่ม ปตท. มีความแข็งแกร่ง และเติบโตไปได้ยั่งยืน
นอกจากนี้ ปตท.ตระหนักถึงปัญหาคอร์รัปชั่น จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี และต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นเชิงรุก
@ปตท.แจงรายละเอียด 6 ธุรกิจใหม่ต่อยอดธุรกิจปัจจุบัน
นายอรรถพล อธิบายเพิ่มเติมถึงธุรกิจใหม่ (new business) ของ ปตท. ว่า จะประกอบไปด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจแบตเตอรี่ และการเข้าไปเป็นตัวกลาง (แพลตฟอร์ม) ซื้อขายพลังงานทดแทน โดยมีแอปพลิเคชันที่ให้เจ้าของโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเข้ามาลงทะเบียน และให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะจากฝั่งตะวันตกที่ต้องการได้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากพลังงานสะอาดเข้ามาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
2.ธุรกิจ Life Sciences ซึ่งประกอบด้วย 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจยา ธุรกิจอาหารเสริม และธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งเป็นต่อยอดจากการผลิตผลิตภัณฑ์ประเภทพลาสติกและปิโตรเคมี 3.ธุรกิจ Mobility and Lifestyle ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ 4.ธุรกิจ High-value business ซึ่งต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเคมีของ ปตท. เช่น การผลิตพลาสติกที่มีลักษณะเฉพาะ และมีความทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งมีมูลค่าสูง
5.ธุรกิจ logistic ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศพัฒนาเศรษฐกิจและธุรกิจไปอีกก้าวหนึ่ง และที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการลงทุนโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ไปแล้ว และก่อนหน้านี้กลุ่ม ปตท. ได้มีการลงทุนโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 ไปแล้ว และ 6.ธุรกิจ AI and Robotics โดย ปตท.สผ. มีการจัดตั้ง AI Robotics Ventures เพื่อคิดค้นเทคโนโลยีทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น Robot สำรวจท่อก๊าซ เป็นต้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีโดรน และเทคโนโลยี Cloud
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage