อดีตแกนนำพันธมิตรฯจับมือ นปช.! ‘พิภพ ธงไชย’ ร่วม ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ จัดกิจกรรมไล่ ‘บิ๊กตู่’ รหัส 4/4/4 เชิญชวนทุกฝ่ายไม่แบ่งสี-ไม่เลือกข้างมารวมตัวกันแสดงพลัง ยกเคสพฤษภาฯ 35 ไล่ รสช.สำเร็จ ด้านกลุ่ม‘ทะลุฟ้า’ ยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม ต้องแก้ รธน.-เลิก ม.112
.............................................
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และอดีตกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามัคคีประชาชนนัดจัดกิจกรรม ‘ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย’ ภายใต้รหัส 4/4/4 โค่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 4 เม.ย. 2564 ว่า การจัดงานนี้ ที่อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรรม จะร่วมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และกลุ่มผู้รักประชาธิปไตย โดยเป็นกิจกรรมที่สะท้อนความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศที่กำลังเดินไปสู่ทางตันและส่อจะเกิดกลียุคสงครามกลางเมืองเพียงเพราะการกระหายอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์
@เชิญ ปชช.ทุกภาคส่วน ‘ไม่เลือกข้าง-ไม่แบ่งฝ่าย-ไม่แบ่งสี’
นายอดุลย์ กล่าวว่า เวทีสามัคคีประชาชนจะเชิญประชาชนจากทุกภาคส่วนของสังคม ไม่เลือกข้าง ไม่แบ่งฝ่าย แบ่งสี มาชำแหละความผิดพลาดล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่การตระบัดสัตย์ไม่ปฏิรูปประเทศตามที่ให้สัญญาประชาคมเมื่อครั้งยึดอำนาจปี 2557 ไม่สร้างความสามัคคีปรองดองตามคำมั่นสัญญากับแกนนำกลุ่มการเมืองทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง แล้วสร้างความแตกแยกทางสังคมอย่างร้าวลึก ปล่อยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่ทำให้เจ้าสัวร่ำรวย แต่ประชาชนต้องใช้สินค้าอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นจึงเกิดความเหลื่อมล้ำยิ่งกว่าเดิม กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน อภิสิทธิ์ชนยังอยู่เหนือกฎหมาย ขณะที่คนจนเข้าไม่ถึงความยุติธรรม ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญวางแผนสืบทอดอำนาจอีกสมัย ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ อ้างสถาบันพระมหากษัตริย์สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันโดยที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถปกป้องสถาบันได้ เป็นต้น
“เวทีสามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ใครก็สามารถมาร่วมกันได้ หากมีความเห็นตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์คือตัวปัญหา เหมือนกับช่วงพฤษภาคม2535 ที่นักศึกษาและประชาชนทุกฝ่ายเห็นว่า รสช. คือตัวปัญหาจึงออกมาขับไล่จนสำเร็จ ดังนั้นงานนี้จะต้องสลายเสื้อสี อะไรที่เคยบาดหมางใจให้ละไว้เลิกทะเลาะกันชั่วคราว มาสามัคคีเพื่อประเทศไทยไล่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สำเร็จก่อน และไม่จำเป็นต้องเดินลงท้องถนน เพราะหากทุกฝ่ายมาแสดงพลังร่วมกันจำนวนมากให้เป็นเจตจำนงของสังคมก็สามารถกดดันองคาพยพของรัฐบาลให้สั่นคลอนล้มลงได้ แล้วจัดให้มีรัฐบาลใหม่ที่สามารถสร้างความสามัคคีคนในชาติและปกป้องสถาบันได้ดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ “นายอดุลย์ กล่าว
@ซัดปฏิบัติการ IO รบ.ควรหยุด-อย่าปรามาสประชาชน
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวอีกว่า การออกมาปฏิบัติการ IO ของคนในรัฐบาลเพื่อด้อยค่าหรือพยายามสร้างความเกลียดชังให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนควรหยุดเสีย และกลับไปเก็บหาทางลงจากอำนาจเพื่อไม่ให้ประเทศชาติต้องบอบช้ำไปมากกว่านี้ ขณะที่การสร้างวาทกรรมสู้แล้วรวย การปรามาสจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมว่าจะมีไม่มาก ของคนฝั่งรัฐบาลนั้น สะท้อนให้เห็นความเขลาทางปัญญาและความล้าหลัง เพราะวันนี้มวลชนก้าวหน้าไปไกลมากแล้ว พวกตนรู้ดีว่า กิจกรรมไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จบแค่ครั้งสองครั้ง แต่จะเป็นการสะสมเงื่อนไขพลังประชาชนเชิงคุณภาพ และวันหนึ่งจะมีประชาชนเรือนล้านลงถนนไล่พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอนหากยังพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาระบอบประยุทธ์
“แกนนำ คือ คนที่อยู่หน้าแนวรบ มีมวลชนประชาชนที่มีความเห็นสอดคล้องกันเป็นกำแพงหนุน ทุกคนล้วนผ่านการต่อสู้บนท้องถนนมานับครั้งไม่ถ้วน ในยามที่การเมืองในระบบไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน แต่เป็นเพียงเกราะกำบังอำนาจและผลประโยชน์ของนายทุน ขุนศึก ก็ย่อมเป็นสิทธิโดยธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของประชาชนที่จะออกมาขับไล่ผู้นำนั้น ซึ่งถือเป็นปรัชญาพื้นฐานของการเมืองที่ยึดถือกันปฏิบัติทั่วโลกว่า ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการลุกฮือ ต่อต้าน เป็นเรื่องระหว่างประชาชนกับเผด็จการ” นายอดุลย์ กล่าว
@กลุ่ม‘ทะลุฟ้า’ ยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม ‘ไล่บิ๊กตู่-แก้ รธน.-เลิก ม.112’
วันเดียวกันแฟนเพจเฟซบุ๊ก UNME of Anarchy ของกลุ่ม ‘หมู่บ้านทะลุฟ้า’ แนวร่วมม็อบราษฎร โพสต์ข้อความยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง โดยไม่ลดเพดาน ไม่ลดจำนวนข้อ ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป 2.เขียนรัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน 3.ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมระบุว่า ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.thaipost.net/
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่https://www.facebook.com/isranewsfanpage