รมว.พาณิชย์เผยเป้าปี 64 ดันส่งออกข้าวไทย 6 ล้านตัน เร่งผลักดันจีทูจีเจาะ 4 ตลาดใหญ่ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก และจีน พร้อมแจงปีที่ผ่านมา ตลาดแคนาดาประสบความสำเร็จขยายตัวสูงสุด
..............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมทิศทางตลาดข้าวไทยปี 2564 และลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการค้าข้าวระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับกระทรวงการค้าแห่งประเทศอินโดนิเซีย (MOU) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ว่า เป้าหมายการส่งออกข้าวในปี 2564 ตั้งเป้าไว้ที่ 6 ล้านตัน จากปีที่แล้วส่งออกข้าว 5.7 ล้านตัน โดยมุ่งเน้นตลาดสำคัญ 3 ตลาด คือ ตลาดพรีเมียม ที่มุ่งเน้นข้าวหอมมะลิ ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 4.8 และข้าวหอมไทย ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 5.2 ตลาดทั่วไป มุ่งเน้นข้าวขาว ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 4.7 และข้าวนึ่งตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 4.9 และตลาดเฉพาะ เน้นข้าวเหนียว ตั้งเป้าขยายตัว ร้อยละ 3.6 ข้าวกล้องและข้าวสีตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 12.5
นายจุรินทร์ กล่าวว่า มีตลาดค้าข้าวที่ไทยประสบความสำเร็จในการสร้างอัตราการขยายตัวได้สูงมาก คือ แคนาดา เพิ่มการนำเข้าข้าวจากปี 2562 คือ 8 หมื่นตัน เป็น 1.2 แสนตัน ในปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 โดยมีกลยุทธ์หลัก เช่น มุ่งเน้นการขายข้าวไทยออนไลน์ไปยังผู้บริโภคและตัวแทนค้าส่งที่สำคัญ ประชาสัมพันธ์ว่าข้าวไทยเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ มีน้ำตาลต่ำ และสามารถนำไปประยุกต์กับอาหารพื้นถิ่นได้ อีกทั้งจัดกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนสอนทำอาหาร เป็นต้น ส่วนทิศทางการส่งออกข้าวไทยปี 2564 ว่า มี 6 มาตรการ และจะเป็นวาระในการประชุมของประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและะเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานต่อไป
ทิศทางการส่งออกข้าวไทยปี 2564 ดังนี้
1.กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสำนักงานในต่างประเทศทั้งหมดเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับข้าวไทย เป็นข้าวที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ภายใต้แนวคิด Think Rice Think Thailand คิดถึงข้าว คิดถึงประเทศไทย
2.เร่งรัดเปิดตลาดการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) เชิงรุก โดยได้กำหนด 4 ตลาดใหญ่ ประกอบด้วย ตลาดอินโดนีเซีย ที่มีมติ ครม.เห็นชอบให้ทำข้อตกลงการค้าข้าวกับอินโดนิเซีย 4 ปี จำนวนไม่เกิน 4 ล้านตัน ตลาดบังกลาเทศ ที่มีมติ ครม.เห็นชอบเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.2564) ให้ทำข้อตกลงการค้าข้าวกับบังกลาเทศ 5 ปี จำนวน 5 ล้านตัน ตลาดอิรักที่เปิดโอกาสให้ไทยสามารถเข้าประมูลขายข้าวได้แล้ว หลังจากประสบปัญหาหลายปีจากกรณีผู้ส่งออกข้าวไทยรายหนึ่งส่งข้าวด้อยคุณภาพ แต่ยังติดปัญหาเรื่องความเข้าใจมาตรฐานข้าวขาว 100% ของไทยคือข้าวขาว 5% และเอกสารรับรองจากสถานทูตอิรักประจำประเทศ เนื่องจากไม่มีสถานทูตอิรักประจำประเทศไทย จึงจะมีการเจรจาขอปรับเงื่อนไขต่อไป และตลาดจีนที่ได้ทำเอ็มโอยูไว้ในอดีต และจีนยังมีภาระต้องนำเข้าข้าวเก่าอีก 3 แสนตันที่ตกค้างอยู่ ต้องดำเนินการต่อไป
3.การเจรจาเพื่อส่งออกข้าวจะมุ่งเน้นการเจราขอลดภาษีนำเข้า ด้วยการใช้ประโยชน์การเปิดการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ
4.จับมือร่วมกับกระทรวงอื่นๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดต้นทุนการส่งออก
5.เร่งรัดขยายช่องทางการตลาด ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์
6.แสวงหาข้าวพันธุ์ใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ โดยจัดกิจกรรมประกวดข้าวพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาของทุกภาคส่วน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ข้าวหอม ข้าวนุ่ม และข้าวแข็ง เพื่อสนองความต้องการของตลาดให้มากยิ่งขึ้น
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หากจะส่งออกข้าวให้ได้ 6 ล้านตัน ไทยต้องส่งออกข้าวให้ได้ เดือนละ 5 แสนตัน แต่ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา ส่งออกข้าวรวมกันได้ 8 แสนตัน หรือเดือนละ 4 แสนตัน เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าราคาของคู่แข่ง เกิดจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า และปริมาณข้าวน้อยกว่าปกติที่เกิดจากภัยแล้ง
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวไทยน้อยลง แต่ผลผลิตโลกไม่ได้ลดลง จึงทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกไม่สูงมากนัก แต่ราคาข้าวไทยสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้บางครั้งราคาส่วนต่างต่างกันถึง 100 เหรียญ คาดการณ์ว่าแนวโน้มราคาข้าวปี 2564 จะดีกว่าปีที่แล้ว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage