ผช.รมต.แจงหลังจากมีกระแสวิจารณ์การลงพื้นที่สำรวจปัญหาชาวบ้านบางกลอย พบร้อยละ 90 พอใจการแก้ปัญหาจัดสรรที่ดินของรัฐบาล ส่วนใจแผ่นดินเป็นป่าที่ฟื้นฟูอุดมสมบูรณ์แล้ว ไม่ควรกลับไปอาศัยอยู่
................................................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2564 นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ติดตามการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย โดยได้นั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพพื้นที่จริง และพูดคุยกับชาวบ้านที่ศาลาพะลอจี บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงท่าทีและคำพูดที่ไม่เหมาะสมที่มีต่อชาวบ้าน
นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2564 ว่า จากที่ได้รับการติดต่อและได้รับข้อมูลว่าสำนักนายกรัฐมตรีจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน แต่ปรากฎว่าท่าทีของนายประสานเป็นการยัดเยียดความเห็นหรือความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่การรับฟังความเห็นของชาวบ้าน โดยที่ชาวบ้านไม่มีโอกาสในการโต้แย้งอะไร อีกทั้งจากการบินสำรวจ นายประสานอ้างว่าพบแปลงปลูกกัญชาในพื้นที่ใจแผ่นดิน แต่เมื่อชาวบ้านขอดูภาพ ก็ไม่ให้ดู อีกทั้งกล่าวท้าชาวบ้านว่าให้ขึ้นไปดูพื้นที่ดังกล่าวด้วยกัน เมื่อชาวบ้านตอบรับ ก็ไม่ได้พาชาวบ้านขึ้นไปแต่อย่างใด
นายประยงค์ กล่าวว่า ชาวบ้านบางกลอยไม่พอใจจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ เนื่องจากไม่รับฟังปัญหา หรือเข้าพื้นที่มาเพื่อช่วยแก้ปัญหาแล้ว อีกทั้งเป็นการกล่าวหาชาวบ้านเรื่องการปลูกกัญชาและเผาป่า อีกทั้งการใช้ท่าทีและคำพูดที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ยังไม่มีการพูดถึงปัญหากลุ่มชาวบ้านที่ต้องการกลับไปที่ใจแผ่นดิน และพยายามหลีกเลี่ยงประเด็นดังกล่าวอีกด้วย
ต่อกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2564 นายประสาน ชี้แจงว่า จากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ เกิดกระแสวิจารณ์กรณีไม่รับฟังและไม่เข้าใจชาวบ้านบางกลอย อาจจะเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดของผู้ฟัง ตนและนายประยงค์ พร้อมด้วยแกนนำบางกลอยได้โทรศัพท์พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ในฐานะที่เป็นรองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ากะเหรี่ยงบางกลอยอยากกลับไปที่ใจแผ่นดิน และเรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดพื้นที่ทำกินเพิ่ม และพัฒนาสาธารณูปโภค เนื่องจากไม่มีน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบแล้ว
นายประสาน กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจพื้นที่ใจแผ่นดิน พบว่าเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์มาก มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นแหล่งต้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี เป็นพื้นที่สูงสุดของเขา และเป็นพื้นที่ติดชายแดนไทย-เมียนมา มีความชันและเป็นเหวลึก ซึ่งยากลำบากต่อการบิน เพราะเสี่ยงกับลมหมุน จะทำให้เครื่องตกได้ จากการบินลาดตระเวนบริเวณบางกลอยกลางทุกจุด พบว่าพื้นที่ด้านบนถูกเผาป่าไปกว่า 100 ไร่ และพบว่ามีการปลูกกัญชา โดยได้บันทึกภาพไว้ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ลงไปสร้างภาพ แต่มีวันและเวลากำหนดไว้ชัดเจน สืบเนื่องจากพบมีการปลูกต้นกัญชา จึงต้องนำมาสู่การพิจารณาเรื่องข้อเรียกร้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
นายประสานกล่าต่อว่า ส่วนกรณีการพัฒนาพื้นที่และจัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านที่บริเวณบางกลอยล่างนั้น ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีชุมชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมอบได้ให้นายอำเภอและผู้ใหญ่บ้านทำการสำรวจสำมะโนประชากร ให้เสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อแยกอย่างชัดเจนว่า ชาวบ้านในพื้นที่ดั้งเดิม และที่มาจากพื้นที่ข้างนอก มีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่
นายประสาน เปิดเผยการพูดคุยกับชาวบ้านบางกลอยว่า ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 90 พอใจมากกับการแก้ปัญหาจัดสรรที่ดินให้บริเวณบางกลอยล่าง มีเพียง 15-16 ครัวเรือนที่อ้าวว่าต้องการกลับไปอยู่ที่ใจแผ่นดิน เลยต้องตั้งคำถามว่า จะไปอยู่ที่ใจแผ่นดินได้อย่างไร ในเมื่อเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ทั้งหมด แค่ขึ้นก็ลำบากแล้ว อีกทั้งมีประวัติเฮลิคอปเตอร์ตกมาแล้ว 3 ลำ แต่ชาวบ้านบอกว่าจะขึ้น เลยต้องถามต่อว่า เคยขึ้นไปหรือยัง ได้รับคำตอบสรุปมาว่าไม่มีใครเคยขึ้นไปเลย ทั้งนี้หลังการประชุมฯ ได้มอบให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด มีการขุดบ่อน้ำบาดาล เพื่อเตรียมพร้อมที่ทำกิน
ส่วนคำถามว่า ชาวบ้านจะกลับมาชุมนุมเรียกร้องอีกหรือไม่ นายประสาน กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาอีก แต่ถ้ามีปัญหาให้แจ้งผ่านทางผู้ใหญ่บ้าน และส่งต่อให้นายอำเภอ หากแจ้งมาแล้ว 3-4 วัน ทางราชการไม่แก้ปัญหา ขอให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่ที่เคยให้เบอร์ติดต่อไว้ให้มาถึงตนโดยตรงและจะลงไปแก้ปัญหาให้
ส่วนจุดประสงค์หลักของรัฐที่ไม่ต้องการให้ชาวบางกลอยกลับไปที่ใจแผ่นดินเป็นเพราะเรื่องความมั่นคง นายประสาน กล่าวว่า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแนวชายแดน และในอดีตเป็นที่ปะทะ และเป็นเขตแดนด้านความมั่นคง เพื่อความปลอดภัยจึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดีแอบหลับลักลอบเข้ามาไปล่าสัตว์ป่า
(ที่มาภาพ : ไทยโพสต์)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage