DSI ยกชุดหลายหน่วย ลงพื้นที่สืบสวน กรณีบุกรุกป่า ตัดไม้ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส หลังใช้ ส.ค.1 บิน ออก น.ส. 3 ก. 88 แปลง 1,500 ไร่ ถูกกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เก็บข้อมูลชงอธิบดี เคาะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
..........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล และ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้มอบหมายให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปพ.จชต.) ลงพื้นที่ทำการสืบสวน กรณี การบุกรุกตัดไม้ แผ้วถาง และยึดถือครอบครองป่าและออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายในพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ตามเลขสืบสวนที่ 70/2564
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก ที่ทำการทางยุทธวิธี สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ทก.ยว. กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เปิดยุทธการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ และได้ประสานข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเข้าดำเนินการ จากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร (ทก.ยว.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส สาขารือเสาะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรศรีสาคร พบข้อเท็จจริงว่า ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว กรมที่ดินได้มีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) เลขที่ 321-370 ,3742399 และ 542-553 ระหว่างรูปถ่ายทางอากาศหมายเลข 5321 IV แผนที่ 161 ตำบลเชิงคีรี อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จำนวน 88 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ เนื่องจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) ดังกล่าวออกตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) ในปีงบในปีงบประมาณ 2537 โดยไม่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากได้ออกในบริเวณพื้นที่ที่เป็นเขาหรือภูเขาและมีความลาดชันเกินกว่า 35% ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยนโยบายป่าไม้แห่งชาติ กำหนดพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไป ไว้เป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
จากกรณีดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศพระราชบัญญัติการสอบสวนพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและประมวลเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่ามีเหตุและมีเงื่อนไขที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage