ที่ประชุม'กลุ่มควอด'เคาะจัดส่งวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันฉีดโดสเดียวให้อาเซียน 1 พันล้านโดสก่อนสิ้นปี 65 ด้านตัวแทน 'สหรัฐฯ' แจงเป็นข้อผูกมัดร่วมกัน ส่วน WHO แจงยังไม่มีเหตุผลให้ต้องหยุดใช้งานวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ชี้ไม่พบหลักฐานทำให้เสียชีวิต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19หรือโคโรน่าไวรัสว่า เหล่าบรรดาผู้นำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศออสเตรเลีย ประเทศอินเดีย และประเทศญี่ปุ่นได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะจัดส่งวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1 พันล้านโดสให้กับพื้นที่ส่วนมากของทวีปเอเชียในช่วงก่อนสิ้นปี 2565
โดยคณะกรรมการร่วมจากกลุ่ประเทศดังกล่าวหรือที่เรียกกันว่ากลุ่มควอดซึ่งถูกก่อตั้งเมื่อปี 2550 ได้มีข้อตกลงร่วมกันและคาดว่าวัคซีนที่จะใช้ในการจัดส่งนั้นน่าจะเป็นวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ผลิตจากประเทศอินเดีย โดยการฉีดวัคซีนดังกล่าวจะใช้เพียงแค่เข็มเดียวเท่านั้น
ขณะที่ตัวแทนจากประเทศสหรัฐฯกล่าวว่าคณะกรรมการได้มีข้อตกลงร่วมกันอย่างหนักแน่นว่าวัคซีนนั้นจะถูกมุ่งเน้นไปที่การจัดส่งไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียนที่มีประชากรจำนวน 500 ล้านคน
"ด้วยศักยภาพการผลิตของประเทศอินเดีย เทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา การสนับสนุนด้านการเงินจากทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ และความช่วยเหลือด้านการขนส่งจากประเทศออสเตรเลีย พวกเราจึงได้มีข้อผูกมัดร่วมกันว่าจะจัดส่งวัคซีนจำนวนทั้งสิ้น 1 พันล้านโดส" นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงกล่าวในระหว่างการประชุมทางไกล
นายซัลลิแวนได้กล่าวย้ำต่อไปด้วยว่าวัคซีนส่วนมากจะไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคแปซิฟิก
โดยบริษัทของอินเดียที่ชื่อว่า The Indian company Biological Ltd นั้นจะเป็นผู้ที่จะดำเนินการผลิตวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันหลังจากที่วัคซีนดังกล่าวนั้นได้รับการอนุมัติโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆที่ WHO นั้น มีรายงานว่า นางมาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษก WHO กล่าวสนับสนุนการใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า แม้มีหลายประเทศที่ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าว หลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย
ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยเราควรจะยังคงใช้วัคซีนนี้ต่อไป โดยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนที่ดีมาก เช่นเดียวกับวัคซีนอื่นที่มีการใช้กันในปัจจุบัน และขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต” นางแฮร์ริสกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนของ WHO กำลังตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และย้ำว่ายังไม่มีสิ่งบ่งชี้ความเชื่อมโยงกันระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
ทั้งนี้ เดนมาร์ก นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ อิตาลี บัลแกเรีย ลักเซมเบิร์ก เอสโทเนีย ลิธัวเนีย ลัตเวีย และโรมาเนีย ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หลังมีรายงานว่าผู้ได้รับวัคซีนบางรายมีอาการลิ่มเลือดอุดตัน
ออสเตรียได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเช่นกัน หลังมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ และบางรายมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอดหลังได้รับวัคซีน
เรียบเรียงจาก:https://www.bbc.com/news/world-56381104,https://www.bbc.com/news/world-56370636
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 