ป่วยใหม่ 71 ราย ติดในประเทศ 48 ราย เตรียมเสนอ ศบค.สัปดาห์หน้า ผ่อนคลาย 3 ระยะ ส่วนพาสปอร์ตวัคซีน ต้องรอ WHO ประกาศใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
..........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2564 เวลา 11.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 71 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 48 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 41 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 7 ราย และอีก 23 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 26,441 ราย หายป่วยเพิ่ม 33 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 579 ราย ยังไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 85 ราย
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 48 ราย มีประวัติไปสถานที่เสี่ยงหรือมีอาชีพเสี่ยง 41 ราย ประกอบด้วย กทม. 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย ปราจีนบุรี 3 ราย ตาก 2 ราย สมุทรสาคร 34 ราย โดยมีเด็กอายุ 1 ปีด้วย
ขระที่พบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 7 ราย ประกอบด้วยปทุมธานี 1 ราย และสมุทรสาคร 6 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย ประกอบด้วย เดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย อิตาลี 1 ราย ปากีสถาน 1 ราย เลบานอน 1 ราย สหราชอาณาจักร 4 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย บาห์เรน 2 ราย และสาธารณรัฐแซมเบีย 1 ราย
@เตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลาย 3 ระยะสัปดาห์หน้า
ก่อนหน้านี้ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ศบค.ชุดเล็กเตรียมนำเสนอการผ่อนคลายมาตรการ แบ่งเป็น 3 ระยะ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เน้นย้ำให้เตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลาย เพื่อขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจให้มากขึ้น โดยคาดว่าจะประชุมในช่วงสัปดาห์หน้า
โดยในระยะที่ 1 เดือนเม.ย.2564 จะนับจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดทั่วประเทศ เพื่อนำข้อมูลมาเสนอแผ่นผ่อนคลายมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์การฉีดวัคซีนภายในประเทศ ซึ่งอาจจะมีการปรับสีพื้นที่ ส่วนชาวต่างชาติที่จะเข้ามา รัฐจะผ่อนคลายกระบวนการเข้าสู่ราชอาณาจักร รวมถึงการกำหนดมาตรการกักตัวด้วย ส่วนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จะเสนอให้ขยายไปจนถึง 31 พ.ค. 2564 แต่ยังคงพระราชบัญญัติโรคติดต่อไว้ พ.ศ.2558 ซึ่งจะเสนอใช้ในระยะที่ 2 คือ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีการประชุมในวันนี้ ถึงความก้าวหน้าการฉีดวัคซีนทั้งประเทศ ซึ่งจากนี้จะต้องวางแผนกระจายวัคซีนแอสตราเซนเนก้าควบคู่กันไปด้วย รวมถึงการกักตัวของผู้เดินทางระหว่างประเทศ กรณีได้รับวัคซีนจากประเทศต้นทาง การที่จะเดินทางมายังไทยต้องมีกระบวนการอย่างไร โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงการดูแลต่างจากผู้ยังไม่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ เมื่อคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น จะทำให้ประเทศมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นเช่นกัน การกักตัวของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาจจะมีการผ่อนปรน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ระยะที่ 3 ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.2564
@ ไทยเตรียมพร้อม 'พาสปอร์ตวัคซีน' แล้ว แต่ยังต้องรอ WHO ประกาศใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งโลก
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงพาสปอร์ตวัคซีนว่า กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศมีการหารือเรื่องพาสปอร์ตวัคซีน (Vaccination Passport) เพื่อแสดงว่าได้รับวัคซีนต้านโควิดแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามมาตรการที่แต่ละประเทศกำหนด อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า ขณะนี้ต้องรอวัคซีนพาสปอร์ตซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ที่จะออกโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ทั้งนี้ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขสามารถออกเป็นประกาศนียบัตรวัคซีน (Vaccination Certificate) ว่าได้รับวัคซีนถูกต้องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และพร้อมปรับเปลี่ยนให้ตรงกับมาตรฐานโลกทันที
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องของการกระจายวัคซีน แผนต่างๆ การผ่อนคลายที่จะเกิดขึ้น ต้องสอดคล้องกับแผนการกระจายวัคซีนที่ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความร่วมมือของพี่น้องประชาชน และยังเน้นย้ำเรื่องเมืองเศรษฐกิจ เมืองท่องเที่ยว จะได้รับการกระจายวัคซีน เป็นสิ่งที่ ศบค. ให้ความสำคัญที่จะได้รับวัคซีนเป็นที่แรกๆ นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ การตีความบุคลากรด่านหน้านั้นอาจจะรวมถึง ตม. ศุลกากร ตำรวจ ทหาร ไม่เฉพาะเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ยังมีพลเรือนบางส่วนที่ถือเป็นบุคคลเสี่ยง อาจจะทำงานอยู่ในสถานกักกัน พื้นที่เสี่ยง ดูแลผู้ป่วย คัดกรองที่สนามบิน เป็นต้น รวมทั้งผู้มีโรคประจำตัว จะต้องกระจายวัคซีนไปถึงเป็นกลุ่มแรกๆ” พญ.อภิสมัย กล่าว
@ สธ.ประสานผู้ว่าฯทุกจังหวัด เตรียมมาตรการคุมเข้ม-รองรับการสอบเข้าอุดมศึกษา
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กพิจารณาและทบทวนมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมการสอบเข้าอุดมศึกษา รวมจำนวนผู้เข้าสอบ 819,416 ราย ในพื้นที่ 77 จังหวัด 782 สนามสอบ แบ่งเป็นการสอบ GAT/PAT จำนวน 257,274 ราย วิชาสามัญ 175,003 ราย และโอเน็ต (O-NET) 387,139 ราย อย่างไรก็ตามยังมีบางพื้นที่ปรับเป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว ส่วนในจังหวัดสมุทรสาคร กทม. และปริมณฑล ยังเป็นพื้นที่เฝ้าระวังที่จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ซึ่งนักเรียนไม่ได้เรียนที่โรงเรียนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้เกิดผลกระทบมากกว่าพื้นที่สีเขียว
ทั้งนี้หากจะเลื่อนการสอบไม่ตรงกัน อาจจะส่งผลกระทบอื่นๆ ตามมาได้ ดังนั้นจึงกำหนดการสอบดังนี้ O-NET ป.6 ในวันที่ 13 มี.ค.2564 O-NET ม.3 ในวันที่ 13-14 มี.ค.2564 GAT/PAT ในวันที่ 20-23 มี.ค.2564 O-NET ม.6 ในวันที่ 27 และ 29 มี.ค.2564 วิชาสามัญ ในวันที่ 3-4 เม.ย.2564 V-NET ในวันที่ 4-6 เม.ย.2564 และวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย 6-10 เม.ย.2564
นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขยังเตรียมมาตรการคุมเข้มสำหรับการสอบครั้งนี้ โดยได้ประสานผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อจัดสนามสอบทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน และเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้กครองที่ไปรับไปส่งบุตรหลานทุกคน จึงอยากขอความร่วมมือทุกๆฝ่าย ถ้าเราร่วมมือกันจะผ่านกันไปได้ด้วยดี
@ทั่วโลกป่วย 365,600 ราย สะสม 117.43 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 365,600 ราย รวม 117,437,928 ราย อาการหนัก 89,492 ราย หายป่วย 92,946,571 ราย เสียชีวิต 2,605,094 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 41,967 ราย รวม 29,696,250 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 716 ราย รวม 537,838 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 18,691 ราย รวม 11,229,271 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 99 ราย รวม 157,890 ราย บราซิล พบเพิ่ม 80,024 ราย รวม 11,019,344 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,054 ราย รวม 265,500 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 115 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage