ยืนโทษคุก 2 ปี 6 ด.! อดีตพนง.อาวุโส ธอส. ทุจริตชี้ช่องขายทรัพย์ NPA

pictssaasasasasas7 3 64

ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าผลคดี 'ธนเดช อังคณาวิจิตร' อดีตพนง.อาวุโส ธอส. ทุจริตเรียกรับเงินค่าตอบแทนชี้ช่องเลือกซื้อทรัพย์ NPA ธนาคารไปขายต่อ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนโทษคุก 2 ปี 6 เดือน แต่แก้ให้ยกฟ้องความผิดตาม ม. 147

...............................

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายธนเดช อังคณาวิจิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานบริหาร ทรัพย์สินอาวุโสส่วนสำรวจและดูแลทรัพย์สินฝ่ายบริหารทรัพย์สินธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุจริตเรียกรับเงิน ค่าตอบแทนจากการ แนะนำหรือชี้ช่องในการเลือกซื้อทรัพย์ NPA ของ ธนาคารฯ ไปขายต่อ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามตามพระราชบัญญัตว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 มาตรา 11 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561

โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานฯ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 พระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 192 การกระทำของจำเลย เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษ มาตรา 6 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคง จำคุก 2 ปี 6 เดือน

(อ่านประกอบ : คุก 2 ปี 6 ด.! อดีตพนง.อาวุโส ธอส. ทุจริตเรียกเงินค่าชี้ช่องซื้อทรัพย์ NPA ไปขายต่อ)

ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่ความคืบหน้าคดีนี้ ว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามมาตรา 147 ตามฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงานเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต

มาตรา 11 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ส. ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี

picpppllldsdsddd7 3 64