ศาลอุทธรณ์คดีทุจริตฯพิพากษายืนจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท ‘พรพรหมดิลก’ อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา คดีเงินทอนวัด อุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม 5 ล้าน ปี 57 แต่รอลงอาญา 1 ปี
.....................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2564 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อท.254/2561 พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายบุญเลิศ โสภา อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา จ.ลำปาง นายแก้ว ชิดตะขบ อดีตนักวิชาการศานาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา และพระพรหมดิลก (นายเอื้อน กลิ่นสาลี) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในคดีกล่าวหาว่าทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (คดีเงินทอนวัด) กรณีเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 5 ล้านบาท ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 162 ประกอบมาตรา 83, 86
วันนี้พระพรหมดิลก (นายเอื้อน กลิ่นสาลี) เดินทางมาศาล เนื่องจากยื่นอุทธรณ์คดี ส่วนจำเลยอื่นไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ มีคณะสงฆ์ และฆราวาสผู้ติดตามจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย
โดยศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ประเด็นที่พระพรหมดิลก ยื่นอุทธรณ์นั้น ฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์ฯจึงมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คงจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท ส่วนโทษรอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี
ภายหลังศาลอุทธรณ์ฯมีคำพิพากษาดังกล่าว นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของพระพรหมดิลก กล่าวว่า พระพรหมดิลก ยื่นอุทธรณ์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสนับสนุนการกระทำความผิด แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ สามารถใช้อำนาจในการตรวจสอบงบประมาณต่าง ๆ ได้ ศาลจึงไม่เชื่อ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เบื้องต้นทนายความปรึกษากันแล้ว จะยื่นเรื่องขอสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป
นายอรรณพ กล่าวอีกว่า สำหรับพระพรหมดิลก ยังมีคดีเกี่ยวกับกรณีเงินทอนวัดอีก 2 คดี คือกรณีถูกกล่าวหาว่าฟอกเงิน และศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องไปแล้วเมื่อเดือน ก.ย. 2563 โดยอัยการไม่ยื่นฎีกา คดีจึงถึงที่สุดแล้ว ส่วนคดีแพ่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 1.6 ล้านบาทนั้น คดียังไม่สิ้นสุด อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง (ศาลชั้นต้น) พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ให้จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ส่วนพระพรหมดิลก จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 จำคุก 1 ปีและปรับ 12,000 บาท โดยจำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3, 4 คนละ 12 เดือน สำหรับจำเลยที่ 5 คงจำคุก 8 เดือนและปรับ 8,000 บาท
ในส่วนของพระพรหมดิลก จำเลยที่ 5 นั้น ศาลเห็นว่า เคยประกอบคุณงามความดีในด้านพุทธศาสนา จบการศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย ทะนุบํารุงการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา อีกทั้งไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกนั้นจึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้เป็นเวลา 9 เดือน
หมายเหตุ : ภาพประกอบพระพรหมดิลก จาก https://static.posttoday.com/
อ่านประกอบ : อุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง! ‘อดีตพระพรหมดิลก-พระอรรถกิจโสภณ’คดีฟอกเงินทอนวัด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage