เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ากระชับพื้นที่ ฉีดน้ำ - แก๊สน้ำตา และใช้กระสุนยาง เพื่อสลายการชุมนุมกลุ่ม REDEM ขณะที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมฯ ระบุ มีผู้ถูกจับกุม - จับตาถูกพาตัวไป ตชด.ภาค 1 ส่วนก่อนหน้านี้กลุ่มการ์ดม็อบเข้ารื้อ-ตัดแนวลวดหนาม เข็นตู้คอนเทนเนอร์ หน้า ร.1 รอ. เผชิญหน้า ตร.ควบคุมฝูงชนแล้ว หลังระดมพลเตรียมบุกบ้านพักทหาร ‘บิ๊กตู่’ ปิดการจราจรทุกช่องทาง เหลือแต่ขึ้นโทลเวย์
.......................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วมในนาม ‘REDEM (Restart Democracy)’ มาถึงบริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่มีบ้านพักราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทำให้การจราจรต้องปิดทุกช่องทาง เหลือเพียงช่องทางด่วนยกระดับ (โทลเวย์)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา สถานการณ์การชุมนุมเกิดความตึงเครียดขึ้นหลายครั้ง มีการขว้างปาประทัดส่งเสียงดังอยู่หลายครั้ง ต่อมาเวลา 19.15 น. ตำรวจได้มีการขยับรถฉีดน้ำแรงดันสูง และเคลื่อนกำลังไปที่บริเวณด้านข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนตามแนวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถอยร่น จนเกิดการปะทะกันอีกครั้งบริเวณด้านข้างโรงพยาบาล
ต่อมาเวลา 19.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการกลับไปที่บริเวณกรมทหารราบที่ 1 และยังมีการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งเวลา 20.00 น.แนวของเจ้าหน้าที่ได้ขยับถอยออกไปจากที่ตั้งด้านปั๊ม ปตท. ขณะที่ผู้ชุมนุมขยับเดินหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำช่วงสั้น ๆ เป็นระยะ และมีกลุ่มแก๊สน้ำตาเกิดขึ้นหนาแน่น ระหว่างแนวของเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม รวมทั้งมีเสียงดังคล้ายเสียงปืนเกิดขึ้นสองสามนัด คาดว่าจะมีการใช้กระสุนยางเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้าใกล้แนวของเจ้าหน้าที่
กระทั่งเวลา 21.27 น. เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH โพสต์ข้อความระบุว่า ยุติการชุมนุมเวลานี้ ตำรวจระดมยิงกระสุนยาง ชุดจับกุมเข้าพื้นที่
ด้าน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration โพสต์ข้อความประณามการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้ตำรวจทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ทั้งนี้เมื่อเวลา 23.24 น. โพสต์ข้อความอีกว่า มวลชนที่ถูกจับกุมกำลังถูกพาไปกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 และขอให้ทุกคนช่วยกันจับตามอง และติดตามข่าวการจับกุมอย่างใกล้ชิด
@การ์ดม็อบตัดลวด-เข็นคอนเทนเนอร์
หลังจากนั้นกลุ่มการ์ดม็อบ ได้เข้าตัดลวดหนาม และพยายามเข็นตู้คอนเทนเนอร์ ที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้กีดขวางตั้งแต่ช่วงเช้า ออกไปเพื่อจะเข้าไปยังด้านในให้ใกล้บริเวณประตูทางเข้ามากที่สุด
ความคืบหน้าเมื่อเวลาประมาณ 18.50 น. กลุ่มการ์ดม็อบ ได้เข้าเผชิญหน้ากับตำรวจควบคุมฝูงชนแล้ว โดยมีการผลักดันยื้อยุดกันเล็กน้อย
@เริ่มเดินขบวนตั้งแต่ 5 โมงเย็น-แกนนำปราศรัยรถติดเพราะนายกฯชื่อ‘ประยุทธ์’
อนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อตั้งแต่ประมาณ 16.00 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วมในนาม ‘REDEM (Restart Democracy)’ เริ่มรวมมวลชนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อตั้งขบวนมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ที่มีบ้านพักราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
หลังจากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ม็อบเริ่มเคลื่อนขบวน โดยแกนนำประกาศตลอดทางว่า สาเหตุที่การจราจรติดขัดไม่ใช่เพราะมวลชน แต่เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งระบายรถที่จะมุ่งหน้าไปยังพญาไท ต้องเลี้ยวซ้ายวิ่งไปยังสามแยกดินแดง-ถ.ราชปรารถ แทน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. มวลชนเดินผ่านบริเวณ ถ.พหลโยธิน ซอย 2 เป็นทางเชื่อมระหว่าง ถ.พหลโยธิน และ ถ.วิภาวดี-รังสิต ข้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 4 กองร้อย ตรึงกำลังอยู่ พร้อมแผงเหล็กกั้น และรถฉีดน้ำแรงดันสูง 1 คัน โดยกลุ่มมวลชนได้แสดงความไม่พอใจ และตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
@บช.น.จัด 4 กองร้อยควบคุมฝูงชน-ยันไม่อนุญาตม็อบปิดช่องทางหลักเด็ดขาด
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) แถลงมาตรการดูแลความปลอดภัยกลุ่ม REDEM ว่า บ้านพักราชการทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ใน ร.1 รอ. อยู่ในเขต กทม. ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และการชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อาจเข้าข่ายความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ โดยตำรวจจะใช้กำลังหลักจากชุดควบคุมฝูงชนหญิง (กองร้อยน้ำหวาน) 1 กองร้อย ควบคู่กับตำรวจควบคุมฝูงชนจาก บช.น. 1 และ บช.น. 2 รวม 4 กองร้อย หากสถานการณ์ย่ำแย่ จะเพิ่มกำลังสำรองจาก บช.น. 9 ด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ตำรวจอนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใกล้สิ่งกีดขวางได้มากที่สุดที่แนวกั้น ถ.วิภาวดี-รังสิต ช่องทางคู่ขนานหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมปิดช่องทางด่วน หรือช่องทางหลักเด็ดขาด เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดยาวที่ประชาชนจะเดินทางกลับมา กทม.
รอง ผบช.น. กล่าวว่า สำหรับการเตรียมสิ่งกีดขวาง ตำรวจพิจารณาตามความเหมาะสมจากการข่าว และพฤติกรรมของผู้ชุมนุม ลดการเผชิญหน้า เพราะการชุมนุมที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด พลุเพลิง ที่อาจก่อเพลิงไหม้ เช่น การชุมนุมที่รัฐสภา เกียกกาย ที่แยกรัชโยธิน ที่หน้าสถานทูตเมียนมา และที่ศาลฎีกา ตำรวจมีความห่วงใยจึงต้องตั้งเครื่องกีดขวาง และแบริเออร์ในบางสถานที่ เพื่อกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยนำสิ่งกีดขวางไปตั้งไว้หน้า ร.1 รอ. เพียง 1 ช่องทาง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เรื่องการเตรียมสิ่งกีดขวางนั้น ตำรวจได้พิจารณาตามความเหมาะสมจากการข่าวและพฤติกรรมของผู้ชุมนุม เพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาเพราะมีการใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด พลุเพลิงที่อาจก่อเพลิงไหม้ เช่น การชุมนุมที่รัฐสภา เกียกกาย ที่แยกรัชโยธิน ที่หน้าสถานทูตเมียนมา และที่ศาลฏีกา ตำรวจมีความห่วงใยจึงจำเป็นต้องตั้งเครื่องกีดขวางและแบริเออร์ในบางสถานที่เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยได้นำสิ่งกีดขวางไปวางหน้ากรมทหารราบที่ 1 เพียง 1 ช่องทาง และให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านจราจร
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage