'อนุทิน' เผยวัคซีน 2 ยี่ห้อ ถึงไทย 24 ก.พ. เผย นายกรัฐมนตรีต้องฉีดเข็มแรก เพราะเป็นผู้นำประเทศ ขณะที่นายกฯย้ำวัคซีนเป็นของทุกคน ส่วนจะฉีดคนแรกหรือไม่ เป็นคำถาม 'กระพี้' ใครต้องฉีดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณา ยืนยันไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน แต่ต้องขึ้นทะเบียนถูกต้องกับ อย.
..............................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า วัคซีนโควิด ไม่ใช่วัคซีนของตน เป็นของคนทั้งประเทศ เป็นการอนุมัติใน ครม. ซึ่งวันนี้ได้มา 2 ยี่ห้อ และกำลังจะตามมาอีกหลายยี่ห้อ อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องขึ้นทะเบียนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จากนั้นจะมีการฉีดเพิ่มเติมโดยโรงพยาบาลเอกชนที่นำเข้ามา รัฐบาลก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่ขอให้ผ่านระยะแรกไปก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตนจะฉีดวัคซีนเป็นคนแรกหรือไม่ เป็นคำถามกระพี้ทั้งนั้น สิ่งที่น่ายินดีร่วมกันคือเรามีวัคซีนแล้ว ส่วนจะฉีดใครขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการพิจารณา และขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ฉีด ทั้งนี้ทุกคนมีส่วนร่วมและเปิดช่องทางให้แล้ว ใครประสงค์จะฉีด กระทรวงสาธารณสุขเปิดช่องทางให้ให้ยื่นความสมัครใจอยู่แล้ว ทั้งนี้เท่าที่ทราบส่วนหนึ่งยังมีความลังเล ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่สำคัญที่สุดรัฐบาลต้องเตรียมวัคซีนให้พร้อมสำหรับคนทั้งประเทศ ซึ่งจะทยอยรับและจัดหาวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นใคร แต่ขอให้ฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อน
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามีการประชุมที่กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งให้ นพ.โสภณ เมฆธน ประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาพบสื่อมวลชนให้มากขึ้น เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการ ฉีดวัคซีน
นายอนุทิน ยืนยันว่า ได้มีการประเมินแล้วว่านายกรัฐมนตรีสามารถฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 และจะต้องเป็นเข็มแรก เพราะเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งกรมควบคุมโรคมีวิธีการในการตรวจสอบร่างกายตามหลักสากล ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อใครเป็นพิเศษ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะได้ฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ โดยจะเข้ามาจำนวน 117,000 โด๊ส ที่จะเข้ามาพร้อมกับวัคซีนลอตแรกของวัคซีนซีโนแวคในวันที่ 24 ก.พ.2564
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนต้านโควิด ผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุว่า วัคซีนจากบริษัทซิโนแวค จำนวน 2 แสนโดส จะมาถึงในวันที่ 24 ก.พ. 2564 โดยจะเริ่มฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนการที่วางไว้ ภายใน 3 วัน สำหรับคนไทยจะได้ฉีดวัคซีนฟรีทุกคน มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และการบริหารจัดการทั้งหมดไว้ก่อนแล้ว ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) จะชี้แจงให้ทราบต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วัคซีนล็อตที่สองจำนวน 8 แสนโดส และล็อตที่สามอีก 1 ล้านโดส จะตามมาในเดือน มี.ค. - เม.ย. ส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับฉีดเข็มที่ 2 ให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และ ในเดือน พ.ค. - มิย.จะมีการนำเข้าวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ล็อตแรกจำนวน 26 ล้านโดส และจะตามมาอีก 35 ล้านโดส โดยวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าได้ผ่านการขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่ได้ส่งเอกสารขึ้นทะเบียนบางส่วน แต่ยังไม่ครบถ้วน และบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ ได้ส่งตัวแทนมาพูดคุย แต่ยังไม่ได้ดำเนินการส่งเอกสารมา จะเห็นว่าไม่มีการปิดกั้น โดยเปิดรับวัคซีนจากทุกบริษัท และได้มีการประสานงานกันมาโดยตลอด บางส่วนอยู่ในขั้นตอนการขอเอกสาร บางส่วนอยู่ระหว่างการเจรจา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ยินดีที่ภาคเอกชนมีแนวคิดช่วยจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ผู้ที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตวัคซีนหรือผู้นำเข้าจำเป็นจะต้องขอจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อน โดยมีการระดมผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเพื่อตรวจสอบและความรวดเร็วในการขึ้นทะเบียน พร้อมกล่าวยืนยันว่า วัคซีนที่ใช้ฉีดในประเทศไทยทุกล็อต ต้องผ่านการขึ้นทะเบียน เพราะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เนื่องจากทั้งหมดเกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของคนไทยทุกคนในประเทศ จำเป็นจะต้องมีการวางมาตรการอย่างเป็นระบบและรัดกุม มีแผนงานที่เป็นขั้นเป็นตอนตามที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้การฉีดวัคซีนได้ผลในการป้องกันการระบาดได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเน้นย้ำว่า ส่วนสำคัญเรื่องหนึ่งในกระบวนการ คือการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage