ป.ป.ช. เผยแพร่ผลคดีชี้มูลความผิด 'สังข์ทอง วัดถัง' อดีตพนง.ออมสิน สาขาคง นครราชสีมา เบียดบังเงินธนาคารไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษหนัก 62 กระทง คุก 310 ปี รับสารภาพลดให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เหลือ 155 ปี แต่ลงโทษจริงได้ 50 ปี คืนเงิน 2,915,000 บาท
...................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสังข์ทอง วัดถัง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพนักงานปฎิบัติการ 7 ธนาคารออมสิน สาขาคง อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา เบียดบังเงินของธนาคารออมสิน สาขาคง ไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 มาตรา 11
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาว่า จำเลย มีความผิดตามมาตรา 4, 8, 11 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นความผิดไป
รวม 62 กระทง จำคุก กระทงละ 5 ปี เป็นจำคุก 310 ปี
จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 155 ปี แต่ให้จำคุกจำเลย 50 ปี และให้คืนเงินจำนวน 2,915,000 บาท แก่ธนาคารออมสิน
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์ คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา 8 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา 11 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :
คุก 5 ปี! อดีตนายกฯ พิปูน ช่วยเหลือ หจก. เสนอราคาต่ำอันดับ 3 ทำสัญญาถนนคอนกรีต
คุก 4 ปี 12 ด.ใช้คืน7.2 แสน! 'พ.ต.ท.หญิง' เบียดบังเงินโรงพิมพ์ ตร.
โดนอีกคดี! คุก 6 ปี อดีตนายกฯโนนท่อน โอนเงินตั้งจ่ายค่าจ้างที่ปรึกษาโครงการมิชอบ
คุก 10 ปี 80 ด.! จนท.สพฐ. เรียกเงิน 'ครู' แลกให้ผ่านผลงาน-ไม่จ่ายข่มขู่ยัดโทษวินัย
ยืนโทษ คุก 18 ปี 24 ด.! อดีตนายกอบต.บัวงาม เรียกเงินตอบแทนบรรจุครูดูแลเด็ก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage