ชง ศบค.ชุดใหญ่ 22 ก.พ.นี้ ปรับ 'สีจังหวัด' ผ่อนคลายคุมโควิด ล่าสุดไทยพบป่วยรายใหม่ 72 ราย ติดเชื้อในประเทศ 69 ราย เผย '5 กิจกรรมเสี่ยง' เคสจุฬาฯ แนะหมั่นล้างมือ-ทำความสะอาดจุดสัมผัส ขณะที่ทั่วโลกป่วยสะสม 109.67 ล้านราย
.....................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 72 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 69 ราย ซึ่งมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบริการฯ 21 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 48 ราย และอีก 3 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 69 ราย กระจายอยู่ในพื้นที่ 16 จังหวัด โดยพบว่ามีประวัติเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงหรือมีอาชีพเสี่ยง 21 ราย ประกอบด้วย สมุทรสาคร 16 ราย นครปฐม 1 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ปทุมธานี 1 ราย และขอนแก่น 1 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 48 ราย ราย ประกอบด้วย ปทุมธานี 47 ราย และพระนครศรีอยุธยา 1 ราย
ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย และสหราชอาณาจักร 1 ราย
ทั้งนี้ ณ วันที่ 16 ก.พ.2564 ไทยผู้ป่วยโควิดสะสม 24,786 ราย หายป่วยเพิ่ม 680 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,141 ราย และไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 82 ราย
ส่วนการแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่นั้น พบว่าระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.2563-16 ก.พ.2564 จังหวัดผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย สมุทรสาคร 15,593 ราย ,กรงเทพมหานคร (กทม.) 924 ราย ,ชลบุรี 652 ราย ,ระยอง 584 ราย ,สมุทรปราการ 364 ราย ,ปทุมธานี 310 ราย ,จันทบุรี 221 ราย นนทบุรี 171 ราย ,ตาก 136 ราย และอ่างทอง 113 ราย
@ '5กิจกรรมเสี่ยง'เคสจุฬาฯ พักอาศัย-ทำกิจกรรม-มีจุดสัมผัสร่วมกัน ให้หมั่นล้างมือเป็นทางแก้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการติดเชื้อโควิดคลัสเตอร์หอพักจุฬานิวาส หรือเคสจุฬาฯว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 22 ราย แบ่งเป็นชาย 14 ราย และหญิง 8 ราย มีอายุระหว่าง 20-60 ปี ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 40-49 ปี โดย 17 ราย มีลักษณะอาการป่วย คือ มีอาการไอ มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ และหอบเหนื่อยร่วมด้วย ส่วนที่เหลืออีก 5 รายไม่แสดงอาการ
ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์การสอบสวนโรคของกรมควบคุมโรคเขตเมือง พบว่าการระบาดดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากผู้พักอาศัยรายหนึ่งที่พักอาศัยอยู่บนชั้น 12 ของอาคารจุฬานิวาสน์ ก่อนจะมีการระบาดไปยังผู้อาศัยที่อยู่ร่วมชั้น 6 ราย และมีผู้อยู่อาศัยร่วมชั้นที่ติดเชื้อรายหนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ได้นำเชื้อไปแพร่กระขายสู่เพื่อนพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก 10 ราย จากนั้นเพื่อนพนักงานรักษาความปลอดภัยได้นำเชื้อไปสู่บ้านหรือเพื่อนสนิทพนักงานบริษัทอื่นเพิ่มอีก 5 ราย
นอกจากนี้ ผลการสอบสวนโรคพบว่ามี 5 กิจกรรมสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาด คือ การพักอาศัยในที่เดียวกัน ,การทำงานร่วมกัน ,การทานอาหารร่วมกัน ,การเข้ากิจกรรมร่วมแถวของพนักงานรักษาความปลอดภัย และจุดสแกนนิ้วมือ-ใบหน้า ซึ่งมีการใกล้ชิดและมีจุดสัมผัสร่วมกัน จึงขอฝากทุกคนระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมทั้ง 5 กิจกรรม รวมถึงขอให้ดูแลความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆ หรือล้างมือกันบ่อยๆ
@ ศบค.ชุดใหญ่เตรียมประชุม 22 ก.พ. เตรียมลุ้น'ปรับสีจังหวัด'ผ่อนคลายการคุมเข้ม
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ.2564 โดยจะนำข้อเสนอการผ่อนคลาย 2 รูปแบบ ได้แก่ 1.การผ่อนคลายรูปแบบกิจกรรมต่างๆยกตัวอย่าง เช่น การแข่งขันกีฬา การค้าขาย เป็นต้น และ2.การผ่อนคลายด้วยการให้เปลี่ยนสีการคุมเข้มของจังหวัด ซึ่งในที่ประชุมมีการหารือกันในเบื้องต้นว่า หากผ่อนคลายเป็นบางกิจกรรมก็อาจเกิดความไม่เสมอภาคได้ เพราะกิจกรรมหนึ่งทำได้ แต่บางกิจกรรมไม่ได้
"มีแนวโน้มว่าที่ประชุมจะมีการผ่อนคลายมาตรการในรูปแบบเดิม คือ การเปลี่ยนสีการคุมเข้มของแต่ละจังหวัด ขณะที่ศบค.เองได้พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุขถึงเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์การเปลี่ยนสี และจะนำมาเสนอในที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่กันต่อไป" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
@ สถิติเผยกลุ่มที่ปชช.อยากให้ฉีดอับดับแรก คือ บุคลากรการแพทย์ถึง 74.47%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นต่อการฉีดวัคซีนโควิดจากเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง ซึ่งสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 33,754 ราย ทั่วประเทศระหว่างวันที่ 13 - 14 ก.พ.2564 พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ 74.47% เห็นว่ากลุ่มบุคคลที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนลำดับแรก คือ บุคลากรการแพทย์ รองลงมา 50.71% เห็นว่าเป็นผู้สูงอายุ 50.71% และ51.85% เห็นว่าควรเป็นกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว เป็นต้น
@ ศบค.ชื่นชม '14 จังหวัด' ไม่เจอโควิด แม้มีการระบาดระลอกสอง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดระลอกสองในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามี 14 จังหวัด ที่ไม่พบผู้ป่วยโควิด ได้แก่ ศรีสะเกษ บึงกาฬ ยโสธร กาฬสินธุ์ สกลนคร มุกดาหาร แพร่ พะเยา แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี พังงา ชุมพร ปัตตานี และยะลา
@ทั่วโลกป่วย 262,941 ราย สะสม 109.67 ล้านราย
สำหรับสถานการณ์โควิดทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 262,941 ราย รวม 109,670,473 ราย อาการหนัก 97,705 ราย หายป่วย 84,205,089 ราย เสียชีวิต 2,418,250 ราย โดยสหรัฐฯพบผู้ป่วยเพิ่ม 52,785 ราย รวม 28,317,703 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 954 ราย รวม 498,203 ราย ,อินเดียเพิ่ม 9,139 ราย รวม 10,925,311 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 76 ราย รวม 155,840 ราย ,บราซิลพบเพิ่ม 32,197 ราย รวม 9,886,710 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 601 ราย รวม 239,895 ราย ขณะที่ไทยมีผู้ป่วยสะสมอยู่ในอันดับที่ 114 ของโลก
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า วันนี้จะมีคนเดินทางกลับเข้าไทยอีก 366 ราย รวม 14 เที่ยวบิน ประกอบด้วย กาตาร์ 60 ราย ฟินแลนด์ 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 เที่ยวบิน 80 ราย คูเวต 45 ราย เนเธอร์แลนด์ 2 เที่ยวบิน 2 ราย กัมพูชา 21 ราย ญี่ปุ่น 3 เที่ยวบิน 5 ราย สิงคโปร์ 3 ราย และเกาหลีใต้ 2 เที่ยวบิน 148 ราย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage