นายกฯ แนะรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้ยิ้มไว้ เมื่อภัยมา ระบุจะใจเย็น พูดน้อย กำชับโหวตทุกพรรคคะแนนต้องใกล้เคียงกัน ย้ำอย่ามีปัญหาภายใน – ต้องทำทั้งการบ้านการเมือง เตรียมพิจารณารายพรรคถ้ามีปัญหา ขณะที่ สมช.ประเมินม็อบนัดชุมนุมถี่ช่วงซักฟอก
...................................................................
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ.ว่า ฝ่ายค้านจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นคนแรก โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1 วันครึ่ง จากนั้นจะเป็นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 และการจัดหาวัคซีน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปรารภในที่ประชุมว่า ขอให้อภิปรายให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการชี้แจงของรัฐบาลมากที่สุด และหวังว่าคะแนนอภิปรายต้องมีความใกล้เคียงกันทุกพรรค ต้องร่วมกันรับผิดชอบ อย่าให้มีปัญหาภายในซึ่งกันและกัน ส่วนนายอนุทิน สอบถามว่า ต้องรอให้ฝ่ายค้านอภิปรายจบก่อนหรือไม่ จึงจะสามารถชี้แจงได้ เนื่องจากว่าตนเองไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจมาก่อน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ไม่ต้องรอ หากปล่อยให้เขาพูดฝ่ายเดียวจะเกิดความเสียหาย ขอให้ทยอยตอบ และตอนช่วงท้ายค่อยสรุปอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังให้กำลังใจรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วยว่า ไม่ต้องเครียด ยิ้มไว้ เมื่อภัยมา รวมกันไม่มีใครทำอะไรเราได้ ส่วนตัวจะอดทนฟังอย่างใจเย็น เพราะเป็นคนจุดเดือดต่ำ และจะพยายามสงบนิ่ง พูดให้น้อยที่สุด พร้อมกล่าวกับนายอนุทิน ด้วยว่า
“รู้ว่าหนูเป็นคนใจร้อน พูดให้ใจเย็นๆ เอาเหตุผลนำ”
นอกจากนั้นในที่ประชุมยังได้เสนอแนะให้ใช้ช่องทางการสื่อสารของรัฐช่วยในการชี้แจงข้อสงสัยกับประชาชน อาทิ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการให้ใช้สื่อของรัฐช่วยนำสิ่งที่รัฐมนตรีพูดไปเผยแพร่ต่อ ส่วนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เสนอให้ติดตามการนำเสนอข่าวของสื่อฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลด้วย เพื่อที่จะได้นำข้อมูลไปชี้แจงต่อไป
อย่างไรก็ตามในช่วงวาระสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดตอนหนึ่งที่น่าสนใจว่า “ขอความร่วมมือทุกท่านทำทั้งการบ้านและการเมือง การเมืองคือ ดูแลประชาชนให้ดี ผมจะพิจารณาเป็นรายพรรคไป ถ้ามีปัญหา”
นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตอีกว่าในตอนท้ายการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แซวนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สองแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และมีข่าวว่าอยู่เบื้องหลังที่จะทำให้ นายณัฏฐพลได้คะแนนน้อยที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า “พี่สันติยิ้มหน่อย นัสยิ้มหน่อย”
ขณะเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองให้ที่ประชุม ครม. รับทราบว่า จะมีการจัดชุมนุมขนาดเล็กทั่ว กทม. โดยเฉพาะในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะมีการจัดชุมนุมต่อเนื่อง โดยมีสถานที่สำคัญ 3 จุดที่ต้องจับตา คือ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมกับประเมินว่า ความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาจะเข้มข้นขึ้น ฝ่ายค้านจะเน้นประเด็นที่สร้างกระแสสังคม เน้นเรื่องที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชน ส่วนในโซเชียลมีเดียจะสร้างกระแสเรื่องมาตรา 112 เรื่องการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล รวมถึงการแสวงผลประโยชน์จากสถานการณ์ในเมียนมาโดยสอดแทรกเรื่องการเมืองไทยไปด้วย
ส่วนช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีมีคนแอบอ้างชื่อว่าสนิทกับตนเองเพื่อไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวว่า ตนเองรู้จักทุกคน แต่ไม่รู้ใจ ถ้าใครที่ไปแอบอ้างว่าสนิทกับตน เพื่อไปแสวงหาผลประโยชน์ ใครเชื่อก็โง่แล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/