สธ.เผยผู้ป่วยโควิดติดจาก 'แม่ค้าขายหมูอัมพวา' กระจายตัวอยู่ใน 5 จังหวัด สมุทรสาคร-เพชรบุรี-กทม.ราชบุรี-สุพรรณบุรี ยืนยันยังคุมไหว ไม่ใช่ระบาดระลอกใหม่ พร้อมอัพเดตทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 73 ประเทศ รวม 128 ล้านโดส 'แอสตร้าเซนเนก้า' ถูกจองมากที่สุด
.............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิดประจำวันว่า กรณีคลัสเตอร์แม่ค้าขายหมู อ.อัมพวา จ.สมุทรสาคร เป็นผู้ป่วยอายุ 46 ปี ประกอบอาชีพขายหมูที่ตลาดรถไฟ ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเดินทางไป-กลับที่ อ.อัมพวาทุกวัน และสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา กระทั่งเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2564 แต่ยังคงเดินทางไปขายหมูที่ตลาดรถไฟตามปกติ และบ่ายวันที่ 25 ม.ค.2564 เดินทางไปรับหมูที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ก่อนจะตรวจหาเชื้อและเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 28 ม.ค.2564
ขณะเดียวกันระหว่างวันที่ 30 ม.ค. - 4 ก.พ.2564 เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 87 ราย เป็นชาวไทย 33 ราย ชาวเมียนมา 52 ราย และลาว 2 ราย ซึ่งมีลูกสะใภ้ของแม่ค้าขายหมูรายดังกล่าวรวมอยู่ด้วย โดยผู้ติดเชื้อชาวไทยกระจายไปอยู่ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร 22 ราย เพชรบุรี 5 ราย กทม. 1 ราย ราชบุรี 1 ราย และสุพรรณบุรี 1 ราย อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคอีก 3 ราย ทำให้ยังไม่ทราบจังหวัดที่แน่ชัด เนื่องจากคลัสเตอร์ดังกล่าวมีการเดินทางไปยังหลายพื้นที่
ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อทั้งหมด ไม่มีอาการป่วย อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวเกิดเหตุมาตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาและจากการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยรายงานเพิ่ม จึงคาดว่าการระบาดในวงกว้างน่าจะหยุดออกไปได้ แต่ยังไม่วางใจ ดังนั้นขอให้ปฏิบัติตามมาตราการอย่างต่อเนื่อง แต่ขอย้ำว่าคลัสเตอร์นี้สามารถคุมได้ ไม่ใช่ระลอกใหญ่โตจนเกินกำลัง
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า การได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านี้จากทีมสอบสวนโรค จะต้องมีการเช็คอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยต้องนำแผนที่มาตรวจสอบ มาดูความเกี่ยวข้อง และต้องตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกิจกรรมว่ามีความชัดเจนเพียงพอหรือไม่ เพราะฉะนั้นในบางรายกรณี ข้อมูลเบื้องต้นที่นำมารายงานอาจจะ มีความแตกต่างไปข้อมูลที่มีการตรวจสอบชัดเจนแล้ว ดังนั้นการให้นำเสนอไทม์ไลน์การติดเชื้อเชื่อมโยงในตลาด ว่ามีการติดเชื้อมาจากบุคคลไหน จะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากพ่อค้า-แม่ค้ามีลูกค้าเข้ามาติดต่อจำนวนมากทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
อย่างไรก็ตามการนำเสนอด้วยการระบุเป็นสถานที่และกรอบเวลา รวมถึงการระดมการค้นหาเชิงรุก จะเป็นคำตอบ ทำให้ทุกคนแน่ใจว่าจากประวัติที่มีความเสี่ยง จริงๆแล้วปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าพึ่งการ์ดตก ขอให้ปฏิบัติตามมาตราการเว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยด้วย เนื่องจากการป่วยโควิดที่ไม่แสดงอาการออกมา สามารถแพร่กระจายเชื้อได้แล้ว
@ ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 73 ประเทศ รวม 128 ล้านโดส พบแอสตร้าเซนเนก้าถูกจองมากที่สุด
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงข้อมูลสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิดจากกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมว่า ทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 128 ล้านโดส ใน 73 ประเทศ โดยมีอัตราการฉีดล่าสุด 4.69 ล้านโดสต่อวัน และมีการจองวัคซีนแล้ว 8,560 ล้านโดส
ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาฉีดแล้ว 40.5 ล้านโดส และมีชาวอเมริกัน 8.81 ล้านรายได้รับวัคซีนครบ 2 ครั้ง
ส่วนตัวอย่าง 5 ประเทศที่เลือกวัคซีนโควิดเหมือนประเทศไทย มีข้อมูลดังนี้ 1.สหราชอาณาจักร เลือกฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา 2.สหรัฐอเมริกา เลือกฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา 3.จีน เลือกฉีดวัคซีนของซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และซิโนฟาร์ม 4.บราซิล เลือกฉีดวัคซีนของซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า และ 5.อินโดนีเซีย เลือกฉีดวัคซีนของซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า
ส่วน 10 อันดับผู้ผลิตที่ได้รับการจองวัคซีนมากที่สุด ได้แก่ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด/แอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 3,046 ล้านโดส บริษัทโนวาแวกซ์ จำนวน 1,314 ล้านโดส บริษัทไฟเซอร์ จำนวน 838 ล้านโดส สถาบันกามาเลยา จำนวน 760 ล้านโดส บริษัทซาโนฟีและจีเอสเค จำนวน 712 ล้านโดส บริษัทโมเดอร์นา จำนวน 471 ล้านโดส บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวน 355 ล้านโดส บริษัทเคียววัค จำนวน 225 ล้านโดส บริษัทซิโนฟาร์ม จำนวน 223 ล้านโดส และบริษัทยูบีไป กรุ้ป จำนวน 202 ล้านโดส ตามลำดับ
@สธ.ย้ำประชาชนร่วมตรุษจีนด้วยวิถีปกติใหม่
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ ขอเชิญชวนทุกคน โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน ขอให้อากงอาม่าชวนลูกหลานที่มาแสดงความกตัญญู โดยสนับสนุนให้มีการแจกอั่งเป่าทางออนไลน์ในปีนี้ ขณะเดียวกันต้องเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ ส่วนการไปซื้อของที่ตลาดควรให้ลูกหลานไปซื้อแทน และควรเว้นการกอด การหอมผู้สูงอายุในบ้าน เพราะจะเป็นความเสี่ยงต่อการระบาดของโควิด ส่วนถึงวันเที่ยวขอให้หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัย 100% และโหลดแอปพลิเคชันไทยชนะมาใช้ร่วมด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage