'รสนา'อดีต สว. วอนสำนักพระพุทธฯ หยุดตัดต้นไม้ถนนรอบพุทธมณฑล ห่วงทำลายความร่มรื่น-ไม่มีที่กรองฝุ่น PM2.5 ขณะที่หัวหน้าฝ่ายอุทยานฯ แจงจำเป็นเพื่อให้แตกกิ่งใหม่-ไม้ใหญ่แต่เปราะ เกิดปัญหาโค่นล้มทุกปี
.........................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล ว่า ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา พบการตัดต้นไม้บริเวณถนนอ้อมหลังพุทธมณฑล ซึ่งเป็นถนนชนบทที่ร่มรื่น มีต้นไม้สองข้างทางเขียวขจีงดงาม แต่ช่วงที่ผ่านมาพบว่าเริ่มมีการให้เอกชนมาตัดต้นไม้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคนที่มาตัดไม่ใช่รุกขกรหรือนักศัลยกรรมต้นไม้ใหญ่ และคาดว่าจะเป็นคนมาตัดเอาไม้ไปขาย และอาจจะเพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงพลังชีวมวล เพราะเห็นมีการเลื่อยไม้เป็นท่อนฟืนวางเรียงบนรถอย่างเป็นระเบียบและใช้เครื่องยนต์มาบดกิ่งไม้ใส่รถ
นางรสนา กล่าวด้วยว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลของการตัด โดยได้รับคำตอบว่าเป็นการตัดเพื่อให้แตกกิ่งใหม่ ทั้งนี้ตนเองตั้งข้อสังเกตว่าการตัดเพื่อให้แตกกิ่งใหม่นั้น ควรทำในช่วงต้นหน้าฝน ไม่ใช่มาตัดในช่วงแล้ง อีกทั้งสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่เกินค่ามาตราฐาน จึงควรเก็บต้นไม่ไว้เพื่อกรองฝุ่น จึงเรียกร้องขอให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าของพื้นที่บริเวณดังกล่าวหยุดการตัดต้นไม้ และควรให้รุกขกรเข้ามาดูแล
ต่อกรณีดังกล่าว สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และได้รับการเปิดเผยข้อมูลโดย นายปวรุตม์ ฐิติพงศิริกุล หัวหน้าฝ่ายอุทยานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่า ถนนบริเวณดังกล่าว คือ ถนนพุทธมณฑลสาย ก. ข. และ ค. ระยะทางรวม 6 กิโลเมตร เป็นถนนล้อมรอบบริเวณพุทธมณฑล เป็นพื้นที่ของสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายใต้การดูแลของฝ่ายอุทยาน เบื้องต้นแจ้งว่าการตัดต้นไม้เป็นการกระทำภายในของอุทยานฯเอง ไม่ใช่เป็นการให้สัมปทานเอกชน ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุการตัด เนื่องจากต้นไม้บริเวณดังกล่าว คือ ต้นนนทรี เป็นไม้กิ่งเปราะไม่ค่อยต้านทานลมแรง ในปี 2563 ที่ผ่านมา มีการหักโค่นของต้นไม้ จนล้มทับรถยนต์ รวม 3 คัน ทำให้เกิดความเสียหาย เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความกับทางสำนักพระพุทธศาสนาที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อีกทั้งกีดขว้างการจราจรอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำการตัดในช่วงนี้หรือฤดูแล้งนี้ เนื่องจากการตัดแต่งต้นไม้ในฤดูฝนเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันหักโค่นในฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ รวมถึงฤดูฝนเป็นฤดูที่ต้นไม้จะแตกกิ่งใบ เจริญเติบโตได้ดี
หัวหน้าฝ่ายอุทยานฯ กล่าวอีกว่า การตัดต้นไม้ครั้งนี้อยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดแต่งต้นไม้หรือรุกขกร ซึ่งเป็นการตัดแต่งเพื่อให้ต้นไม้แตกพุ่มและไม่ให้เกี่ยวพันสายไฟ ไม่ใช่การตัดให้ตายอย่างที่หลายคนเข้าใจ เนื่องจากเดิมที ต้นไม้บริเวณดังกล่าว ไม่ได้รับการตัดแต่งทำให้กิ่งมีลักษณะแห้งเปราะ และสูงเพียงอย่างเดียวซึ่งอาจจะหักโค่นลงมาได้ ส่วนกิ่งไม้ที่ตัดลงมานั้น กิ่งขนาดใหญ่จะทำการเก็บ เพื่อรอนำไปประมูล หรือรอรับซื้อ ส่วนกิ่งเล็กและใบเก็บและนำไปทำปุ๋ยต่อไป อีกหนึ่งสาเหตุที่ต้องมีการตัดต้นไม้ คือ การเตรียมพื้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยทีมช่าง เนื่องจากจะมีโครงการการซ่อมแซมถนนพุทธมณฑล สาย ก. ข. และ ค. จากการชำรุดของพื้นผิวถนน อีกทั้งมีโครงการขุดลอกคลองบริเวณโดยรอบอีกด้วย โดยโครงการซ่อมถนนมีกำหนดการจะเริ่มในไตรมาสที่ 2 คือ ช่วงเดือน เม.ย.2564
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนพุทธมณฑล สาย ก. ข. และ ค. พบว่า ต้นไม้บริเวณถนนพุทธมณฑล สาย ค. ที่ได้รับการตัดแต่งเมื่อเดือน ธ.ค.2563 เริ่มมีการแตกกิ่งและใบ โดยในขณะนี้เริ่มมีการดำเนินตัดแต่งต้นไม้บริเวณสาย ข. และคาดว่าจะตัดแต่งบริเวณสาย ก. ในลำดับต่อไป