ตร.สั่งทุกหน่วยใต้สังกัดใช้แผน ‘พิทักษ์เลือกตั้ง/62’ เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งเทศบาล-นายกเทศมนตรี 28 มี.ค. 64 จัดชุดปราบปรามกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง-จัดกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่รับสมัคร ประสานขอรับค่าใช้จ่ายในการทำภารกิจได้จาก อปท.
.......................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มีบันทึกข้อความส่วนราชการ ตร. ถึง ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค (ผบช.ภ.) 1-9, สันติบาล, ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.), ทท., สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.), สยศ.ตร., และ กมค. เรื่อง การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี
โดยสาระสำคัญของบันทึกข้อความดังกล่าว ระบุว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ลต 0012/ว 75 ลง 15 ม.ค. 2564 แจ้งแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี กำหนดให้วันที่ 28 มี.ค. 2564 เป็นวันเลือกตั้ง และให้วันที่ 8-12 ก.พ. 2564 เป็นวันรับสมัครเลือกตั้งดังกล่าว เพื่อให้การเตรียมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในส่วนภารกิจ ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต และเที่ยงธรรม จึงให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ภ.1-9 และ ภ.จว. ประสาน กกต.เขต/จว. เพื่อทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ รวมทั้งความต้องการของ กกต.เขต/จว. ในการขอรับการสนับสนุนจาก ตร. นอกเหนือจากการจัดกำลังตามแผนของ ตร. เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนการจัดกำลังพล
2.ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ถือปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พิทักษ์เลือกตั้ง/62) โดยเคร่งครัด
3.ให้ทุกหน่วยตามข้อ 1 ประสานการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามภารกิจสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งของหน่วย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งทั้งหมด ตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562
4.การจัดกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งฯ ให้ดำเนินการดังนี้ 4.1 การจัดชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง (ปป.ลต.) 4.2การจัดกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง 4.3การจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานที่เลือกตั้ง 4.4การจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามความเหมาะสม 4.5ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ จตช.(ภ.8) ให้ถือปฏิบัติในการจัดกำลังตามความเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ รวมทั้งให้มีการประสานการปฏิบัติกับ กอ.รมน.ภาค 4 เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
5.ให้ทุก ภ.จว. เป็นหน่วยรับในการจัดกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
5.1ให้พิจารณากำลังพลที่มีอยู่ในสังกัด และในพื้นที่เป็นอันดับแรก ซึ่งหมายความรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกสายงาน เช่น งานอำนวยการ/ธุรการ ป้องกันปราบปราม สืบสวน และจราจร เป็นต้น ทั้งนี้ต้องพิจารณาคุณวุฒิ ประสบการณ์ และความรู้ความสามารถให้เหมาะสมกับภารกิจที่จะมอบหมายให้รับผิดชอบด้วย หากยังไม่เพียงพอให้เสนอขอรับการสนับสนุนจาก ภ.จว. และ ภ. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานอื่นในพื้นที่ เช่น บช.ตชด. หรือขอรับการสนับสนุนจากฝ่ายปกครอง หรือทหาร หรือหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ตามความจำเป็น
5.2 การจัดกำลังไปปฏิบัติภารกิจจะต้องมีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและแบ่งมอบสายการบังคับบัฐชาให้ชัดเจนในทุกระดับ กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย แผนเผชิญเหตุ ขั้นตอนการปฏิบัติ วงรอบการปฏิบัติและการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาให้รอบคอบ รัดกุม ตรวจสอบได้
5.3 กำลังพลทุกนายจะต้องได้รับการอบรมชี้แจงข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติล่วงหน้าก่อนทุกนาย โดยให้หน่วยประสาน กกต.พื้นที่ เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อศึกษาทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เพื่อให้การปฏิบัติ และการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพครบถ้วน และสอดคล้องกับกฎหมาย
6.ระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และอาวุธสงคราม
7.บช.ส.เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามหัวข้อข่าวสารสำคัญที่กำหนดไว้ในแผนฯ ให้พร้อมรายงาน และสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี และอบรมชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติให้แก่กำลังพลที่จะทำหน้าที่ผู้ปฏิบัติ กรณีมีข่าวสารสำคัญที่จะส่งผลกระทบให้ สันติบาลจังหวัด ประสานกับ ผบก.ภ.จว. โดยตรง เพื่อดำเนินการการตามอำนาจหน้าที่ ฃ
8. กมค. เป็นหน่วยหลักในการประสาน รวบรวม ตอบข้อหารือเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยออกคำสั่งมอบหมาย/จัดเวรผู้รับผิดชอบในการตอบข้อหารือให้ชัดเจน รายงานและติดตามผลคดีความผิดที่เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งให้ ตร. ทราบ
9. ให้ สตม. สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของคนต่างด้าวที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี หากพบข้อมูลให้แจ้ง ผบก.ภ.จว. นั้นทราบและรายงาน ตร. ทราบ
อ่านประกอบ : กกต.ประกาศวันเลือกตั้งเทศบาลทางการ! รับสมัคร 8-12 ก.พ.-กาบัตร 28 มี.ค.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage