นายกรัฐมนตรี สั่งคลัง-แรงงาน หามาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 เพิ่มเติม ยืนยัน ไม่ทอดทิ้งใคร ขออย่ากังวล ส่วนเรื่องวัคซีน พร้อมฉีดกลุ่มเป้าหมายแรก 19 ล้านคน โดยล็อตแรก 5 หมื่นโดสเริ่มฉีดให้แพทย์-เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงก่อน
..............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวในรายการ PM PODCAST นายกรัฐมนตรีมีเรื่องเล่า ซึ่งออกอากาศผ่านเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า ว่า วันนี้มีเรื่องที่ต้องการสื่อสารถึงประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับกระทบจากโควิด ที่ทุกวันนี้มีการประชุมกลุ่มย่อยทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อรับทราบปัญหาที่แท้จริง นายกรับมนตรีได้รับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากประชาชนหลายกลุ่ม พยายามทำความเข้าใจและนำข้อมูลจากคนทุกกลุ่มมาพิจารณา สิ่งไหนทำได้ก่อนก็ทำทันที เรื่องไหนติดขัดอาจจะใช้เวลาสักนิด เพื่อปลดล็อกหรือหาจุดที่ลงตัวที่สุด ขอยืนยันว่าเราจะไม่ทอดทิ้งใครทั้งสิ้น ขออย่ากังวล
“ยกตัวอย่างผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน ไปดูเพิ่มเติมว่าจะมีแนวทางช่วยอย่างไรได้บ้าง หลังจากเมื่อวานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม หรือกรณีว่างงาน เช่นถูกเลิกจ้างจะได้รับชดเชย 70% ปีละไม่เกิน 200 วัน กรณีเหตุสุดวิสัยได้รับเงินเยียวยยา 50% ของเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทเป็นเวลาไม่เกิน 90 วัน เป็นต้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ครม.ได้ดำเนินมาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยประชาชนด้วย อาทิ ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนองที่ดิน ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับสถานประกอบการสปา นวดเพื่อสุขภาพ รวมถึงขยายเวลาการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา และเตรียมการที่จะเปิดลงทะเบียนเราชนะสำหรับคนที่ไม่มีฐานข้อมูล วันที่ 29 ม.ค.นี้ ส่วนอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย หรืออาชีพรับจ้างที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว 30 ล้านคน รัฐบาลได้เยียวยา 2 เดือน รวม 7,000 บาท ตั้งแต่ ม.ค. – ก.พ. 2564 สามารถนำเงินไปซื้อสินค้าจำเป็นจากร้านธงฟ้า ร้านหาบเร่ แผงลอย หรือใช้เป็นค่าเดินทางได้ โดยรัฐบาลพยายามใช้งบประมาณที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และต้องมีการพิจารณาอีกหลายกลุ่ม หลายมิติที่ต้องดูแลต่อไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องวัคซีนโควิดหลายคนเป็นห่วงและกังวล มีคำถามว่าจะใช้และฉีดเมื่อไร รัฐบาลยืนยันว่าคนไทยทุกคนที่ต้องการฉีดจะได้รับการฉีดฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ยังยกเว้นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และสตรีมีครรภ์ ขอให้ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของวัคซีน เพราะเรายังคงคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน วัคซีนที่เข้ามาจะต้องผ่านการรับรองของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยระยะแรกมีกลุ่มเป้าหมาย 19 ล้านคน คือบุคลากรแพทย์ และสาธารณสุขส่วนหน้าที่เป็นด่านหน้าของการสู้กับเชื้อโควิด 1.7 ล้านคน คนมีโรคประจำตัว เช่นทางเดินหายใจ ไอเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน 6.1 ล้านคน ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11 ล้านคน เจ้าหน้าที่ควบคุมโควิดและมีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย 1.5 หมื่นคน โดยวัคซีนล็อตแรก 5 หมื่นโดสจะเข้ามาเร็วๆนี้ จะฉีดให้บุคลากร สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในพื้นที่เสี่ยงเป็นลำดับแรก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่ 14 ก.พ.2564 เป็นต้นไป
“ระยะที่สองจะเริ่ม พ.ค.2564 ขึ้นอยู่กับวัคซีนว่าทยอยเข้ามามากน้อยเพียงใด จะครอบคลุมประชาชนกลุ่มเสี่ยงถัดไป กลุ่มเป้าหมายอาจเปลี่ยนตามสถานการณ์การระบาด ประสิทธิภาพและจำนวนวัคซีนที่หาได้ ขอยืนยันรัฐบาลจะดำเนินการให้ดีที่สุด และประเทศไทยต่อไปจะเป็นฐานการผลิตวัคซีนของอาเซียน จะดำเนินการตามแผนที่เราได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากต่างประเทศที่รัฐบาลกำหนดไว้ ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ ที่เราต้องการฉีดให้มากเพียงพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันร่วมในประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากเรื่องโควิดแล้ว ยังได้สั่งการให้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องร่วมกับท้องถิ่น เร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยให้นำแผนบริหารจัดการน้ำ แผนป้องกันปัญหาภัยแล้งและที่เกี่ยวข้อง นำไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรมทันที ส่วนเรื่องสุดท้าย ได้เห็นข่าวสารบ้านเมืองค่อนข้างหนักไปเรื่องการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้ประเทศชาติปลอดภัย คนไทยมีความสุข และมีทางออกให้ประเทศของเรา ทั้งนี้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังมีอยู่มาก และทุกปัญหาต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งรัฐบาลจะพยายามอย่างยิ่งยวดภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ และขอร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย เคารพกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสเป็นธรรม
“ผมยืนยันหลักการและเจตนารมณ์ของผม ผมไม่ใช่ใครทั้งสิ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะรักกัน สามัคคีกัน นำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความก้าวหน้า ไปสู่ความหวังในสิ่งที่เป็นอนาคตที่ดีกว่าวันนี้ โดยเราทุกคนต้องเปลี่ยนตัวเองด้วย และรัฐบาลยินดีที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage