ครม.อนุมัติ 2 แสนล้าน เดินหน้าโครงการ 'เราชนะ' จ่ายเงินเยียวยาโควิด 3,500 บาท 2 เดือน ใช้วิธีโอนเงินตรงเข้าระบบคนถือบัตรคนจน-แอปฯเป๋าตัง ครอบคลุม 31.1 ล้านคน ช่วยผู้มีรายได้น้อย-อาชีพอิสระ ส่วนกลุ่มตกหล่นเริ่มลงทะเบียนผ่าน www.เราชนะ.com ตั้งแต่ 29 ม.ค.-12 ก.พ.นี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการเราชนะ กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เพื่อให้เงินช่วยเหลือ 3,500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.2564) ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด โดยมีกลุ่มเป้าหมาย 31.1 ล้านคน ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ เช่น อาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อย ทั้งหาบเร่แผงลอย รับจ้าง แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ และเกษตรกร
สำหรับผู้คุณสมบัติของผู้ที่ร่วมโครงการ มีดังนี้
1.เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี นับตั้งแต่วันที่ ครม.เห็นชอบ
2.ไม่เป็นผู้ประกันตนตาม ม.33 แห่งกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ส่วนผู้ประกันตนตาม ม.39 และ ม.40 มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
3.ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้รับค่าตอบแทนจากหน่วยงานของรัฐโดยตรงตามปกติ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างที่มีเงินเดือนต่ำ จึงจะเปิดให้ลงทะเบียนในโครงการเราชนะได้ แต่จะมีการคัดกรองในเรื่องรายได้
4.ไม่เป็นข้าราชการการเมือง
5.ไม่เป็นผู้รับบํานาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
6.ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ในปีภาษี 2562
7.เงินฝากรวมทุกบัญชีไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
สำหรับกลุ่มที่มีฐานข้อมูลและเป็นผู้ใช้ G-wallet ในแอปพลิเคชัน 'เป๋าตัง' รวมถึงกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่เคยลงทะเบียนโครงการ 'คนละครึ่ง' และโครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' แล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน แต่ต้องกดปุ่มยินยอมให้นำข้อมูลไปประมวลผลหรือเปิดเผย เพื่อให้รัฐตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และเงินฝากได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลภาครัฐ จะเปิดให้ลงทะเบียนใน www.เราชนะ.com ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียน 29 ม.ค.-12 ก.พ.2564
ส่วนการโอนเงินให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ แบ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม มีดังนี้
1.กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน จะได้รับวงเงินช่วยเหลือตลอดโครงการไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ผ่านบัตรสวัสดิการของรัฐ ซึ่งให้รวมความช่วยเหลือที่ให้ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยจะโอนเงินเข้าระบบเป็นทุกวันศุกร์ เริ่มวันที่ 5 ก.พ.64 ไปจนกว่าจะครบ 7,000 บาท แยกรายละเอียดเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
-กลุ่มผู้ที่รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ซึ่งได้รับเงินอยู่แล้ว 800 บาทต่อเดือน จะได้รับวงเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 675 บาทต่อสัปดาห์ ประมาณ 2,700 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเงินตลอดระยะเวลาโครงการ 5,400 บาทต่อคน หรือรวมแล้วจะได้รับเงิน 7,000 บาทต่อคน
-กลุ่มผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ซึ่งได้รับเงินอยู่แล้ว 700 บาทต่อเดือน จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 700 บาทต่อสัปดาห์ รวมเงินตลอดระยะเวลาโครงการ 5,600 บาท หรือรวมแล้วจะได้เงิน 7,000 บาทต่อคน
2.กลุ่มที่เป็นผู้ใช้ G-wallet ในแอปพลิเคชัน 'เป๋าตัง' เช่น ผู้เคยลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งผ่านการคัดกรองตามหลักเกณฑ์แล้ว จะได้รับการโอนเงินเป็นรายสัปดาห์เช่นเดียวกัน เริ่มโอนเงินงวดแรกวันที่ 18 ก.พ.64 โดยงวดแรกจะจ่าย 2,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการที่เริ่มโอนเงินวันที่ 5 ม.ค.2564 ส่วนงวดที่เหลือจะโอนทุกวันพฤหัสของสัปดาห์ครั้งละ 1,000 บาท ไปจนครบ 7,000 บาทต่อคน
3.กลุ่มที่ยังไม่มีฐานข้อมูลใดๆ และลงทะเบียนใน www.เราชนะ.com หากผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ จะเริ่มโอนเงินงวดแรกในวันที่ 18 ก.พ. 64 โดยงวดแรกจะโอนเงินตกเบิกเป็นเงิน 2,000 บาทเช่นกัน ส่วนงวดที่เหลือจะได้เงิน 1,000 บาททุกวันพฤหัสบดีของแต่ละสัปดาห์ ไปจนครบ 7,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิจะสามารถใช้วงเงินได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.2564 โดยสามารถนำไปซื้อสินค้า ซึ่งรวมถึงบริการต่างๆ เช่น ค่าแท็กซี่ ค่าวินมอเตอร์ไซด์ ร้านตัดผม และร้านซักรีด เป็นต้น ส่วนผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการได้นั้น จะต้องไม่เป็นนิติบุคคล เพราะรัฐบาลต้องการให้เงิน 2.1 แสนล้านบาทก้อนนี้ หมุนเวียนในระดับชาวบ้าน เพื่อสร้างกำลังซื้อให้กับระบบเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เงินที่ได้รับโอนจากโครงการเราชนะดังกล่าว สามารถนำไปใช้จ่ายกับนิติบุคคลได้เฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ให้บริหารขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถร่วมขสมก. รถบขส. และรถไฟฟ้า เป็นต้น
"เงินที่รัฐโอนให้ในโครงการเราชนะ จะไม่สามารถเบิกเป็นเงินสดได้ แต่จะให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังและถุงเงิน" นายอาคมกล่าว
นายอาคม ยังกล่าวว่า ครม.มติเห็นชอบให้นำสิทธิ์โครงการ 'คนละครึ่ง' ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่คงเหลืออยู่ 1.34 ล้านสิทธิ์ วงเงินไม่เกิน 3,500 บาทต่อสิทธิ์ มาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 20 ม.ค.2564 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป และเริ่มใช้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.2564 โดยธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบบจะดูแลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการรับรหัสเหมือนครั้งที่แล้ว
"โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะนั้น มองว่าจะเกิดการบริโภค และมีการใช้จ่ายมากขึ้น และจะทำให้จีดีพีในปีนี้ขยายตัวเพิ่มได้ถึง 1%" นายอาคม กล่าว
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือในโครงการเราชนะและคนละครึ่ง จะได้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยหวังว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ เกิดการใช้จ่ายเพื่อสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ลดปัญหาสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ตามที่ครม.มีมติเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 เห็นชอบให้มีการลงทะเบียน 'คนละครึ่ง' เพื่อรับสิทธิ์ที่เหลืออยู่ 1.34 ล้านสิทธิ์ โดยให้มีการลงทะเบียนผ่านระบบ www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 20 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. นั้น
สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือกำชับโอเปอเรเตอร์ทุกรายดูแลคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้พร้อมรองรับการลงทะเบียน 'คนละครึ่ง' ที่ขั้นตอนการลงทะเบียนมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (One Time Password – OTP) ผ่านบริการข้อความสั้น (Short Message Service – SMS) ด้วย
สำนักงานฯ จึงขอความร่วมมือให้โอเปอเรเตอร์ทุกรายเพิ่มขีดความสามารถ และกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดูแล บำรุงรักษา ซ่อมแซม และปรับปรุงแก้ไข โครงข่ายโทรคมนาคม อุปกรณ์ ที่ใช้ในการให้บริการประชาชนให้สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริการ SMS ต้องไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการลงทะเบียนดังกล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage