'ก้องศักดิ์ ยอดมณี' ผู้ว่ากกทฯ ติดตามสถานการณ์โควิดญี่ปุ่นใกล้ชิด เชื่อยังจัดโอลิมปิกได้ เล็งเสนอแผนให้นักกีฬาได้รับวัคซีนกลุ่มแรก ทันส่งไปแข่งแน่นอน ย้ำพร้อมถ้าหากต้องให้กักตัว 14 วัน
..............
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในวันที่ 23 ก.ค.- 8 ส.ค. (อ่านประกอบ:เช็คความพร้อม 'ญี่ปุ่น' จัดแข่งโอลิมปิก 2021 หลังโควิดระบาดระลอกใหม่ ได้หรือไม่?)
ล่าสุด นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมส่งนักกีฬาไทยไปร่วมกีฬาโอลิมปิกดังที่ญี่ปุ่นว่า ณ เวลานี้ กกท.กำลังเสนอแผนไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจารณาความจำเป็นสำหรับนักกีฬาในการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปแข่งขันกีฬา
นายก้องศักดิ์ กล่าวย้ำว่า "การฉีดวัคซีนนั้นจะครอบคลุมตั้งแต่รอบคัดเลือกที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศต่างๆไปจนถึงนักกีฬาที่จะไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งจะเป็นการเสนอเป็นแผนงานไปยังรัฐบาลว่าให้นักกีฬานั้นได้เป็นกลุ่มแรกๆที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ตามที่ทางด้านของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เคยให้นโยบายเอาไว้แล้ว และขอยืนยันด้วยเช่นกันว่าแผนวัคซีนของประเทศไทยนั้นถือว่าเข้ามาทันกับการที่นักกีฬาของประเทศไทยจะไปแข่งขันโอลิมปิกแล้ว"
เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น นายก้องศักดิ์กล่าวว่า "ทราบข่าวว่าสถานการณ์ประเทศเขาก็ยังไม่ดี แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะจัดงานอยู่ ไม่มีการเลื่อนกำหนด และเขาก็เชื่อมั่นว่าถึงช่วงเวลานั้นแล้วจะมีวัคซีนและจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้รับการฉีดวัคซีน"
เมื่อถามต่อว่า ประเทศญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งอาจจะลากยาวไปจนถึงช่วงเดือน เม.ย. และจะส่งผลทำให้มีช่วงเวลาที่กระชั้นชิดมากสำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการโอลิมปิก ประเด็นนี้จะกระทบกับประเทศไทยในเรื่องการจัดการนักกีฬาหรือไม่ นายก้องศักดิ์กล่าวว่า "เขาคงพยายามจะเคลียร์ปัญหาในประเทศเขาให้ได้ แต่ส่วนตัวเท่าที่ติดตาม เขามีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการจัดโอลิมปิกครั้งนี้เอาไว้แล้ว ไม่ใช่แค่ระยะสั้น และเมื่อถึงเดือน เม.ย. ที่เขาฉีดวัคซีนได้นั้น ประเทศญี่ปุ่นก็น่าจะสามารถรับนักท่องเที่ยวเข้ามาบางส่วนที่เป็นนักกีฬาได้แล้วเช่นกัน"
"แต่ที่ผมยังไม่แน่ใจ ณ เวลานี้ก็คือเรื่องรูปแบบการแข่งขันว่าจะเป็นรูปแบบที่จะให้คนเข้าไปดูได้ไหม หรืออาจจะต้องมีการแข่งขันแบบปิด ไม่ให้มีคนเข้าชมก็เป็นได้" นายก้องศักดิ์กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า การตัดสินใจบางประการของประเทศญี่ปุ่นถ้ามีความกระชั้นชิดมากนั้นจะไปกระทบกับการจัดการรูปแบบนักกีฬาของไทยด้วย นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า "รูปแบบของเรานั้นยังคงเป็นการให้ลำดับความสำคัญเรื่องของวัคซีน แต่เราก็ต้องให้นักกีฬาเตรียมความพร้อมเอาไว้ ถ้าหากญี่ปุ่นจะยังคงจัดการแข่งขันในรูปแบบเดิม เราก็ต้องให้นักกีฬาเก็บตัวเต็มที่ แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แบบเดียวกับกรณีการเลื่อนการแข่งขันเอเชียนอินดอร์-มาเชียลอาร์ตสเกมส์ 2021 เราก็มีความเตรียมพร้อมในการปรับแผนเช่นกัน ซึ่งต้องยืนยันก่อนว่าในปีนี้นั้นเราไม่ได้จัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์-มาเชียลอาร์ตแล้ว"
เมื่อถามว่า ได้รายชื่อชัดเจนแล้วใช่ไหมว่าใครจะไปโอลิมปิกและกีฬาพาราลิมปิกบ้าง นายก้องศักดิ์กล่าวว่า "ได้รายชื่อมาแล้วจำนวนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งก็กำลังมีการคัดเลือก โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการก็คือว่ามีนักกีฬาคนพิการจำนวน 54 คนนักกีฬาทั่วไปอีก 17 คนเป็นต้น แต่ก็มีบางกีฬาเช่นแบดมินตันที่กำลังคัดตัวอยู่"
เมื่อถามต่อว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คืออาจต้องมีการกักตัวนักกีฬาเป็นระยะเวลา 14 วัน ตรงนี้พร้อมหรือไม่ นายก้องศักดิ์กล่าวว่า "ก็ต้องทำตามมาตรการที่มีการระบุไว้ ถ้าเขาเดินหน้าแข่งขันต่อไป"
"เราก็ต้องดูประเด็นแรกคือความปลอดภัยนักกีฬา เราก็ให้ฉีดวัคซีน และถ้าต้องไปปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ เราก็ต้องมาปรับแผนเรา ถ้าหากมีการกักตัว เราก็ต้องปฏิบัติ เหมือนที่นักกีฬาต่างชาติเดินทางเข้ามาแข่งแบดมินตันในประเทศไทย ทุกประเทศ 23 ประเทศก็ต้องทำตามเงื่อนไขเดียวกันหมด สรุปก็คืออยู่ที่มาตรการของเจ้าภาพด้วย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด"นายก้องศักดิ์ระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage