นายกฯ ย้ำชัดไม่มีคำสั่งล็อกดาวน์ 5 จังหวัด แค่ใช้มาตรการเข้มงวดกว่าที่อื่น พร้อมสั่งตั้งกรรมการสืบสวนล่าบ่อนพนันทั่วประเทศ - สั่งจองวัคซีนเพิ่ม 35 ล้านโดส ระยะแรกเพียงพอสำหรับ 60 ล้านคน - มอบงานทีมเศรษฐกิจคิดแผนเยียวยา 40 ล้านคนช่วง 2 เดือน
....................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวจะมีมาตรการล็อกดาวน์ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี จันทบุรี ตราด ว่า ขอยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีการล็อกดาวน์ แต่คนที่เดินทางไปในพื้นที่เหล่านี้จะไม่ได้รับความสะดวกเหมือนพื้นที่อื่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้ใช้คำว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดอย่างเข้มงวด ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง จะร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จะลงไปกระชับพื้นที่ควบคุมโรคอย่างเข้มงวด
“ก่อนหน้านี้ที่เราใช้ล็อกดาวน์ มีเคอร์ฟิว ห้ามการเดินทาง สนามบินก็ปิด นั่นคือภาพที่จะเกิดขึ้นหากมีการล็อกดาวน์ แต่ขณะนี้ไม่ได้ใช้มาตรการเข้มงวดตรงนั้น เป็นเรื่องของพื้นที่ควบคุมสูงสุด ไม่ใช่การเล่นคำ ขอให้ทุกคนได้เข้าใจตรงนี้ ส่วนพื้นที่ 5 จังหวัดจะถูกเข้มงวดยิ่งไปกว่าจังหวัดอื่นๆ เช่น ตั้งจุดตรวจมากกว่าเดิม ติดตามรถทุกคัน ตรวจสอบทุกคน อย่างที่บอกว่า เรื่องบ่อนต่างๆ พฤติกรรมของคนไม่ได้เล่นที่เดียวแล้วเลิก แต่เกิดการเคลื่อนย้ายเดินทางไปเล่นที่อื่นด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรณี 5 จังหวัดที่มีความสับสนอยู่ เกิดจากการให้ข่าวยังไม่ตรงกัน ขอยืนยันตรงนี้ว่า 5 จังหวัดไม่ใช่การล็อกดาวน์ เพราะการล็อกดาวน์คือห้ามเดินทาง ต้องอยู่ในบ้าน บ้านเมืองเหมือนบ้านร้าง และเรายังไม่ได้ไปถึงตรงนั้น แต่หากวันข้างหน้ายังแก้ปัญหาไม่ได้อีก ก็คงต้องล็อกดาวน์ขอพูดให้ชัดเจนตรงนี้
@ตั้งทีมสืบสวนล่าบ่อนพนันทั่วประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราทราบดีว่ามีบ่อนพนันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งบ่อนขนาดใหญ่และบ่อนวิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่าเข้มงวดมากที่สุด เราปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีการเล่นการพนันอยู่ ส่วนตัวไม่อยากไปโทษประชาชน เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ที่ต้องร่วมมือกัน ขณะนี้ไม่ว่าสถานที่ใดก็ตาม ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิดต้องถูกขจัดออกไปให้มากที่สุด จึงได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญจึงให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ ประกอบด้วย ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีทั้งการดำเนินคดีความผิดเฉพาะหน้า ส่วนที่จับกุมไม่ได้ก็ต้องติดตามผู้ที่เป็นนายทุน ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ผู้ใดละเว้นหรือปล่อยปละละเลยต้องถูกลงโทษ เราจะใช้กฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมด ขอย้ำเตือนไว้ด้วยว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ วันนี้เชื่อว่ามีการออกไปเล่นพนันในประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งมีบ่อนอยู่รอบบ้านเราเป็นจำนวนมาก จึงได้สั่งให้จุดตรวจตามแนวชายแดนให้มีการกวดขัน ห้ามไม่ให้ออกไปเล่นการพนันนอกประเทศโดยเด็ดขาด
“ทุกคนรู้ตัวดีอยู่แล้ว ใครไปเล่นในบ่อนพนันมาบ้าง ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ติดตามลงโทษตรงนี้ ขอให้เข้าไปพบแพทย์ เข้าไปหาจุดคัดกรอง เพราะไปพื้นที่เสี่ยง ต้องรับผิดชอบตนเองและสังคมด้วย วันนี้ผมตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้ ต้องใช้กฎหมายหลายตัวเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะตามคนอยู่เบื้องหลังไม่ได้ และเจ้าหน้าที่ก็ต้องถูกลงโทษ ผมจะเข้มงวดทุกอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@จองวัคซีนเพิ่ม 35 ล้านโดส-ระยะแรกมีพอสำหรับ 60 ล้านคน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ในการประชุม ครม.ได้อนุมัติงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมดำเนินการเรื่องวัคซีนเพิ่มเติม โดยขณะนี้เราจะได้รับวัคซีนระยะแรก 2 ล้านโดส แบ่งเป็น ปลายเดือน ก.พ. 2 แสนโดส ปลายเดือน มี.ค. 8 แสนโดส สำหรับประชาชน 4 แสนคน เดือน เม.ย. 1 ล้านโดส สำหรับประชาชน 5 แสนคน และปลายเดือน พ.ค.จะได้รับอีก 26 ล้านโดส สำหรับประชาชน 13 ล้านคน ทั้งหมดต้องผ่านมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งในและต่างประเทศด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า นอกจากนี้รัฐบาลได้สั่งจองวัคซีนของต่างประเทศ ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าอีก 35 ล้านโดส ทำให้รวมทั้งหมดไทยมีวัคซีนครอบคลุมถึงคนไทย 60 ล้านคนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนตามช่วงเวลาต่างๆ ซึ่งเพียงพอตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยแต่จะฉีดคนละ 2 โดส ห่างกัน 4 สัปดาห์ เริ่มทยอยฉีดทันทีที่ได้รับวัคซีน ส่วนจะฉีดกลุ่มใดอย่างไร ให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค เช่น คนที่อยู่หน้างาน คนที่อยู่ด่านคัดกรอง กลุ่มเสี่ยงเกิดโรครุนแรง ผู้สุงอายุ หรือผู้ป่วยเรื้อรัง เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทสยามไอโอไซเอนซ์ ที่จะผลิตวัคซีนในไทยปีละ 200 ล้านโดสในระยะต่อไป ทำให้เราน่าจะวัคซีนเพียงพอในการแจกจ่ายไปทั่วทั้งประเทศ
“สำหรับผลข้างเคียงของการเริ่มฉีดวัคซีนของทั่วโลกในระยะนี้เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดู และสิ่งที่เราให้ความสำคัญขณะนี้คือการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิดให้ได้โดยเร็ว ควบคุมคนติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษา ส่วนวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อใหม่ก็ดำเนินการไป ส่วนคนที่เป็นแล้วก็ใช้ยารักษา ซึ่งเรามีการจัดหาไว้อย่างเพียงพอในขณะนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@สั่งฝ่ายเศรษฐกิจหามาตรการดูแล 40 ล้านคนช่วง 2 เดือน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ผลกระทบที่เกิดจากมาตรการต่างๆ ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปหาแนวทางช่วยเหลือในช่วง 2 เดือนนี้ คาดว่าจะมีมาตรการต่างๆออกมา รวมถึงการเพิ่มมาตรการจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ยืดระยะเวลาบางโครงการ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมีการจองโรงแรม จ่ายค่ามัดจำกันไปแล้ว ก็จะหาแนวทางจัดการให้
“การดูแลคนในช่วง 2 เดือนนี้เรากำลังพิจารณาอยู่ ต้องดูแลคนเกือบ 40 ล้านคน จะทำอย่างไร คงไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ และเราต้องใช้เงินจำนวนมาก รัฐบาลยืนยันว่ายังมีเงินที่พอเพียงอยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage