พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันมติเดิม ไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วม กก.สมานฉันท์ฯ จนกว่า รบ.-คู่ขัดแย้งจะเข้าร่วม ยันต้องแสดงความจริงใจสร้างบรรยากาศปรองดอง ยุติการคุมคาม-จับกุมผู้เห็นต่าง เลิกตั้งข้อหาผู้ชุมนุมอย่างขาดหลักความยุติธรรม เผยแนวทางต้องเร่งแก้ รธน.ปิดช่อง ส.ว.เลือกนายกฯ
.............................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2563 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยมีหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุมกันพร้อมเพรียง นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญคือการหารือเกี่ยวกับการส่งตัวแทนเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ของรัฐสภา
มีรายงานว่า ที่ประชุมร่วมฝ่ายค้านมีมติยืนยันตามมติเดิมคือ ไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ จนกว่ารัฐบาลและคู่กรณีขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าร่วม โดยรัฐบาลต้องแสดงความจริงใจในการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง ด้วยการยุติการคุกคาม ยุติการจับกุม คุมขังผู้เห็นต่าง ยกเลิกการตั้งข้อหากับผู้ชุมนุมอย่างขาดหลักแห่งความยุติธรรม หากยังไม่ดำเนินการ การปรองดองจะไม่เกิดขึ้น
ต่อมาวันเดียวกัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์ กรณีคณะกรรมการสมานฉันท์ ระบุว่า การดำเนินงานของรัฐบาลในปัจจุบันไม่สามารถนำไปสู่ทางออกของประเทศ เนื่องจากรัฐบาลมิได้ทำให้สังคมเชื่อมั่นได้ว่า ตั้งใจจริงกับการแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังใช้กฎหมายที่ทำให้ฝ่ายเห็นต่างที่เป็นคู่ขัดแย้งรู้สึกว่ารัฐบาลใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดตน ซึ่งถือเป็นการทำลายบรรยากาศการร่วมมือและปรองดอง และรัฐบาลยังไม่เปิดใจรับฟังที่จะแสวงหาจุดร่วมเพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหา เท่ากับรัฐบาลได้ปิดกั้นหนทางการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งความพยายามของประธานรัฐสภา ที่พยายามจะสร้างคณะกรรมการสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยที่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี และกลุ่มผู้เห็นต่างกับรัฐบาล ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงไม่เข้าร่วม คณะกรรมการชุดนี้จึงไม่สามารถเป็นความหวัง ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้
คณะกรรมการสมานฉันท์ ที่จะสามารถเป็นทางออกได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากคู่ขัดแย้งต้องเห็นความสำคัญ และทั้งสองฝ่ายต้องตัดสินใจที่จะเข้าร่วม เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการเริ่มต้นกระบวนการปรองดอง ทั้งสองฝ่ายต้องพร้อมที่จะนำความขัดแย้ง และความจริงที่เป็นประเด็นปัญหาความขัดแย้งมาคุยกันบนโต๊ะเจรจาโดยมีคนกลางเข้าร่วม ภายใต้บรรยากาศแห่งการปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้เกิดขึ้นจริงในคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดนี้
พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงขอยืนยันว่า จะไม่เข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ จนกว่ารัฐบาลและคู่กรณีความขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าร่วม และรัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง ด้วยการยุติการคุกคาม และยุติการจับกุม คุมขังผู้เห็นต่าง ยกเลิกการตั้งข้อหากับผู้ชุมนุม อย่างขาดหลักแห่งความยุติธรรม
แนวทางแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ที่เหมาะสมที่สุด คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นกุญแจดอกสำคัญของการแก้ไขปัญหา รัฐบาลต้องทำให้สังคมยอมรับว่า มีความตั้งใจและจริงใจที่จะสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพราะความเป็นประชาธิปไตย คือ กลไกสำคัญที่ทุกฝ่ายจะยอมรับ และสร้างให้เกิด “ความเชื่อมั่น” และคือหนทางสำคัญในการคลี่คลายทุกปัญหาของสังคมไทย รัฐบาลควรแสดงความจริงใจโดยเร่งหาวิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นอำนาจของ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และยอมรับให้เกิดกระบวนการเลือก ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเชื่อใจ ว่า พวกตนไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ และต้องการถอยออกจากอำนาจอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจกำหนดกฎกติกาให้เป็นประชาธิปไตย เพื่ออนาคตด้วยมือของประชาชนเอง
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสมพงษ์ จาก https://www.thairath.co.th/
อ่านประกอบ :
สัปดาห์นี้ได้ชื่อ! ‘ชวน’เผยคืบหน้าตั้ง กก.สมานฉันท์ฯ-กวักมือเรียกฝ่ายค้านมาร่วมด้วย
ตั้งไข่ กก.สมานฉันท์! หารืออดีตนายกฯแก้ปมขัดแย้ง-‘สมชาย-พล.อ.สุรยุทธ์-ธานินทร์’ด้วย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage