รองผู้ว่าฯนครราชสีมา สั่งตำรวจบังคับใช้กฎหมาย หลังผู้จัดงาน 'บิ๊กเมาท์เท่น' ฝ่าฝืนคำสั่ง จัดคอนเสิร์ตต่อ ขณะที่ล่าสุดผู้จัดงานฯแจ้งยุติงาน 22.00 น. พร้อมเปิดช่องคืนค่าตั๋ว
-----------------------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2563 นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนครราชสีมา มีคำสั่งจังหวัด เรื่องปิดสถานที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่ออันตราย เพื่อมีคำสั่งให้ปิดสถานที่สนามกอล์ฟ ดิโอเชี่ยนเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในการจัดคอนเสิร์ต บิ๊กเมาท์เท่น มิวสิก เฟสติวัล ครั้งที่ 11 ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 14.00 น. - วันที่ 14 ธ.ค. เวลา 14.00 น. เนื่องจากไม่สามารถจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานตามมาตรการที่กำหนด ทำให้เกิดความแออัดของผู้เข้าชมจำนวนมาก บางส่วนไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีการตะโกนร่วมร้องเพลงเป็นระยะๆ และผู้จัดการแสดงคอนเสิร์ตไม่ปฏิบัติตามมมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิดอย่างเคร่งครัดตามที่เสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รวมทั้งไม่มีผู้ควบคุมงานที่สามารถจัดสินใจได้มาควบคุมงาน จึงเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่โรคติดต่ออันตรายนั้น
คำสั่งดังกล่าว ระบุด้วยว่า เนื่องจากเป็นกรณีเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณะหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะจึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิ์โต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา เผยแพร่หนังสือดส่วนที่สุดที่ลงนามโดย นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถึง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยมีสาระสำคัญว่า ภายหลังมีการออกคำสั่งปิดสถานที่การจัดคอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น มิวสิก เฟสติวัล ยังพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่งปิดพื้นที่โดยยังคงมีการแสดงคอนเสิร์ตอยู่ จ.นครราชสีมา ขอให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายแก่บุคคลผู้เกี่ยวข้องในการจัดคอนเสิร์ตต่อไป
ขณะที่เมื่อเวลา 21.00 น. Big Mountain Music Festival โพสต์ข้อความว่า ด้วยมาตรการป้องกันโควิด ทำให้ต้องยุติการจัดงานภายในเวลา 22.00 น. ถึงแม้ประกาศราชการ จะทำให้งานต้องยุติลงก่อนกำหนด แต่งานมีวันนี้เพราะการสนับสนุนจากทุกคน หากใครไม่สบายใจ สามารถแจ้งความประสงค์ขอคืนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 18-28 ธ.ค. หลังจากการตรวจสอบเอกสารจะเริ่มทยอยคืนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค.2564 เป็นต้นไป
@อุทธรณ์ไม่สำเร็จ ผู้ว่าฯยันคำสั่งปิด'บิ๊กเมาท์เท่น'
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 16.00 น. เพจ Big Mountain Music Festival โพสต์ข้อความว่า “ด้วยความห่วงจากใจพี่วัว เรื่องมาตรการชมคอนเสิร์ตที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคน พี่วัวต้องขอความร่วมมือทุกคน ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปในพื้นที่ชมคอนเสิร์ตโดยเด็ดขาด เพื่อความสนุกและความปลอดภัยของทุกคน พี่วัวขออภัยในความไม่สะดวกจากใจจริง” โดยมีรายงานว่าคณะผู้จัดงานได้ยื่นขออุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว
กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ว่า ที่ประชุมได้ยกคำขอทบทวนคำสั่งจากผู้จัดงาน โดยให้ยึดประกาศเดิม คือ ปิดพื้นที่และไม่ให้มีการแสดงคอนเสิร์ตในคืนวันที่ 13 ธ.ค.ในทุกเวที ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด
@คนแออัด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ-สธ.ยันยังไม่มีใครติดโควิดเข้าร่วมงาน
ก่อนหน้านี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การจัดกิจกรรมอะไรในช่วงนี้ ผู้จัดงานต้องดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสั่งการดำเนินการเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น สถานที่ต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่เกิดการแออัดมากเกินไป ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดอุปกรณ์ล้างมือ มีระบบติดตามตัวผู้เข้าร่วมงาน และต้องมีคนสามารถตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ในการกำกับต่างๆ แต่จากลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่าผู้ร่วมงานอยู่กันอย่างแออัด สวมหน้ากากอนามัยบ้างไม่สวมบ้าง รวมทั้งจุดเสี่ยงที่เคยแจ้งไปแล้วอย่างด้านหน้าเวทีต้องพยายามอย่าให้มีการตะโกนหรือเบียดเสียดกันเยอะ และได้แจ้งให้ผู้จัดลดการแออัดของผู้คน แต่ไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จึงได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พิจารณายกเลิกการจัดคอนเสิร์ตดังกล่าว
“สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่สำรวจพบว่า บริเวณหน้าเวทีและในพื้นที่มีประชาชนอยู่รวมกันอย่างแออัด และได้แจ้งผู้จัดจัดการให้การแออัดลดน้อยลง เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานว่ามีการแก้ไข จึงได้แจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พิจารณายกเลิกการจัดคอนเสิร์ต เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่กระจายของโรค หากมีผู้ติดเชื้อโควิดเดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้รอคำสั่งผู้ว่าฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง” นพ.โอภาส
ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับสั่งให้ยุติการจัดงานคอนเสิร์ตดังกล่าว หลังพบข้อร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโควิดที่ไม่สามารถจำกัดจำนวนคน และควบคุมการสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้
"ในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ มีมติเอกฉันท์ สั่งปิดคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น ครั้งที่ 11 หลังพบปัญหาร้องเรียนไร้มาตรการควบคุมโควิด" ผู้ว่านครราชสีมา กล่าว (อ้างอิงข่าว : https://www.thaipost.net/main/detail/86719)
นพ.โอภาส กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต บิ๊กเมาท์เท่น มิวสิก เฟสติวัล ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค. ที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ข้อเท็จจริงเรายังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด แต่กรณีดังกล่าวเป็นผู้หญิงอายุ 43 ปี พร้อมกับเพื่อนอีก 7 คนเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ โดยเครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง จากนั้นนั่งรถตู้ไปร่วมงานคอนเสิร์ตที่ อ.ปากช่อง เมื่อถึงที่พักหญิงรายนี้โรคประจำตัวกำเริบ คือมีโรคประจำตัวเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจและอาการการหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ผลการตรวจทั้งหมดยังไม่พบใครติดเชื้อโควิดแต่อย่างใด ทั้งนั้นที่แชร์ข่าวว่ามีคนติดโควิด 8 รายจึงไม่เป็นความจริง ขอความกรุณาอย่าแชร์ต่อ เพราะเป็นข่าวปลอมและเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ
@ไทยป่วยเพิ่ม 17 รายกลับจากต่างประเทศ สะสมรวม 4,209 ราย
ขณะที่ ศบค.รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 13 ธ.ค.2563 พบผู้ป่วยรายใหม่ 17 ราย กลับจากต่างประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย ปากีสถาน 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย บาห์เรน 1 ราย และเมียนมา 9 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,209 ราย หายป่วยเพิ่ม 8 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 226 ราย และเสียชีวิตคงเดิม 60 ราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 635,548 ราย รวม 72,103,223 ราย อาการหนัก 106,813 ราย หายป่วย 50,489,150 ราย เสียชีวิต 1,611,492 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 220,298 ราย รวม 16,549,366 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,309 ราย รวม 305,082 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 30,354 ราย รวม 9,857,380 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 393 ราย รวม 143,055 ราย บราซิล พบเพิ่ม 44,282 ราย รวม 6,880,595 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 690 ราย รวม 181,143 ราย ขณะที่เมียนมา พบเพิ่ม 1,352 ราย รวม 107,215 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย รวม 2,245 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 151 ของโลก
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า วันนี้จะมีคนเดินทางกลับเข้าไทยอีก 206 ราย 13 เที่ยวบิน ประกอบด้วย กาตาร์ 2 เที่ยวบิน 39 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 57 ราย ไต้หวัน 2 เที่ยวบิน 15 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 42 ราย จีน 1 ราย ฮ่องกง 2 เที่ยวบิน 5 ราย สหราชอาณาจักร 21 ราย เนเธอร์แลนด์ 3 ราย เวียดนาม 13 ราย และสิงคโปร์ 10 ราย โดยทั้งหมดต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ เพื่อเฝ้าดูอาการ 14 วัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 