'เอฟดีเอ'อนุมัติฉุกเฉิน วัคซีน บ.ไฟเซอร์ 'ทรัมป์' ชี้เป็นปาฎิหาริย์ทางการแพทย์ คาดเริ่มแจกวัคซีนได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เล็งฉีดบุคลากรทางการแพทย์-คนชรา ก่อนสิ้นปี 63
.........................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 หรือโคโรน่าไวรัสว่า นางเดนิส ฮินตัน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ ได้ระบุในจดหมายที่ส่งถึงไฟเซอร์ในวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ว่า เธอได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ในกรณีฉุกเฉินแล้ว
ส่วนทางด้านของนายสตฟเฟน ฮานส์ผู้อำนวยการเอฟดีเอซึ่งได้ยืนยันการอนุมัติเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการอนุมัติการใช้งานวัคซีนแบบฉุกเฉินนั้นถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการรับมือกับภัยร้ายของโรคระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายครอบครัวในสหรัฐฯ และทั่วโลก
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ทวีตวิดีโอระบุว่าเป็น “ปาฏิหาริย์ทางการแพทย์”
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง Global News
“เราได้ส่งมอบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้ในเวลาเพียง 9 เดือน นี่เป็นหนึ่งในความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” นายทรัมป์กล่าว
ทั้งนี้ การอนุมัติของเอฟดีเอจะทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐสามารถเริ่มแจกจ่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ให้กับรัฐ, ดินแดน และเมืองใหญ่ทั่วประเทศรวม 64 แห่ง โดยจะมีการเริ่มกระบวนการแจกจ่ายได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการอนุมัติ
ด้าน พล.อ.กุสตาฟ เพอร์นา ผู้ดูแลด้านการขนส่งสำหรับโครงการวัคซีนปฏิบัติการณ์วาร์ปสปีดของนายทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐวางแผนที่จะแจกจ่ายวัคซีน 2.9 ล้านโดสภายใน 24 ชั่วโมง ตามด้วยอีก 2.9 ล้านโดสใน 21 วันต่อมาเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฉีดวัคซีนเป็นครั้งที่สอง โดยวัคซีนของไฟเซอร์จะต้องฉีด 2 โดส ซึ่งการฉีดโดสที่ 2 จะทิ้งระยะห่างจากโดสแรก 3 สัปดาห์
โดยมีรายงานว่ากลุ่มประชากรแรกที่ได้รับวัคซีนนั้นน่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มคนชราที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 20 ล้านคน โดยทางการสหรัฐฯได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มประชากรดังกล่าวนี้ได้ก่อนสิ้นปี 2563
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ ยังคงมีปัญหาที่สำคัญประการหนึ่งก็คือกระบวนการจัดเก็บวัคซีนนั้นจะต้องมีการจัดเก็บที่อุณหภูมิ -70 องศสเซลเซียส แต่ว่าทางสภาคองเกรมยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณที่จำเป็นล่วงหน้าดังกล่าวนี้ จึงทำให้นี่กลายเป็นภาระของหน่วยงานด้านสาธารณสุข
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/