นายกฯขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกจนเกินไป หลังพบคน ติดโควิดในภาคเหนือ ‘อนุทิน’ ติงพวกลักลอบเข้าเมืองทำตัวแย่ ทั้งผิดกฎหมาย ไม่กักตัว และยังเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่ล่าสุด สธ.แถลงพบผู้ป่วยรายที่ 4 ที่เชียงราย เดินทางมาจากเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติ
-------------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศบริเวณพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย ว่า การทบทวนมาตรการผ่อนผันกิจกรรมกิจการที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้คนเข้าออกประเทศในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง แต่พบว่ายังมีการลักลอบอยู่ แต่ขอให้ดูว่าเมื่อมีการแพร่ระบาด เรายังควบคุมได้หรือไม่ ติดตามนำตัวผู้ป่วยมาได้หรือไม่ ทั้งหมดมีกระบวนการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเชียงใหม่และเชียงรายเป็นช่วงไฮซีซั่น ขณะนี้ตรวจสอบกลุ่มสัมผัสไป 100 กว่าคน ยังไม่พบใครติด ทั้งนี้ขออย่าตื่นตระหนกจนเกินไป และขอให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเรื่องคนที่ลักลอบเข้าเมืองมาด้วย
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอย้ำว่ามาตรการบริเวณชายแดนมีความเข้มข้นอยู่แล้ว แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากคนในชาติช่วยกันสอดส่องดูแลด้วย
เมื่อถามว่าการแพร่ระบาดจะส่งผลกระทบต่อมาตรการลดเวลากักตัวเหลือ 10 วันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา การผ่อนคลายต่าง ๆ ต้องหาวิธีป้องกันใหม่ ทำให้เกิดความล่าช้า ที่สำคัญ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ คนที่ติดเชื้อ ไม่รับผิดชอบ รู้ทั้งรู้ว่าการลักลอบเข้ามานั้นผิดกฎหมาย แค่นั้นยังไม่พอ แทนที่จะเข้ามาแล้วมาหาเจ้าหน้าที่ หรือมาโรงพยาบาล แล้วบอกว่าติดเชื้อ แต่กลับลักลอบเข้ามาและไปเดินเที่ยว เดินทางข้ามจังหวัด มันแย่มาก ต้องให้ความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งภาครัฐก็เต็มที่ ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย
ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่ภาคเหนือ รวม 4 ราย ประกอบด้วย เชียงใหม่ 1 ราย เชียงราย 3 ราย ทั้งหมดลักลอบเข้าเมืองมาจากฝั่งเมียนมา และเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ทั้งหมดมีความผิดตามกฎหมาย
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย หญิงไทยอายุ 29 ปี ที่ได้แถลงข่าวไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 30 พ.ย. ก็พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย ที่จังหวัดเชียงราย เป็นหญิงอายุ 23 ปี และ 26 ปี และล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 25 ปี ทั้งหมดติดเชื้อจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ป่วยรายล่าสุดเป็นหญิงอายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ จ.พะเยา เดินทางไปทำงานที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ต่อมา 24 พ.ย.เดินทางมาตามช่องทางธรรมชาติรพ้อมเพื่อน 2 คน ผ่าน อ.แม่สาย สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา วันที่ 24-27 พ.ย. พักอยู่ในโรงแรมที่ อ.แม่สาย โดยไม่ได้ออกจากห้องพัก และสั่งอาหารผ่านแกร็บ จากนั้นวันที่ 28-30 พ.ย.ย้ายมาพักที่โรงเรมที่ อ.เมือง จ.เชียงราย และประสานเจ้าหน้าที่ขอรับการตรวจหาเชื้อ โดยได้รับการกักตัวที่กองร้อย อส.เมื่อวันที่ 30 พ.ย. กระทั่งผลพบเชื้อ จึงนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เพื่อทำการรักษาต่อไป โดยกรณีนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงเป็นเพื่อน 2 ราย ที่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ แต่จะทำการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage