'ทรัมป์' ทวิตยอมรับ โควิดระบาดทั่วสหรัฐฯ โวกลางวงผู้นำจี 20 ยันสหรัฐฯกำลังฟื้นตัวอย่างเร็ว ยันประสบความสำเร็จคุมโรคระบาดพร้อมกระตุ้น ศก.สำเร็จ แจงหวังทำงานร่วมกับผู้นำโลกไปอีกนาน-ด้าน FDA อนุมัติใช้งาน 'ค๊อกเทลยา' สูตรรักษา'ทรัมป์'
----------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ออกมาทวิตยอมรับว่า ณ เวลานี้ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วประเทศสหรัฐฯ ซึ่งการยอมรับดังกล่าวนั้นเป็นการขัดต่อคำพูดของนายทรัมป์เองที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน ส.ค. ว่าสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้
โดยรายละเอียดในทวิตเตอร์ของนายทรัมป์์ระบุตอนหนึ่งว่า "ข่าวปลอมไม่ได้ระบุถึงข้อเท็จจริงที่ว่าไวรัสโควิด-19 ได้ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ไม่ใช่แค่ทั่วสหรัฐฯอย่างเดียว"
อนึ่งเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ประเทศซาอุดีอาระเบียซึ่งได้เปิดการประชุม 'จี 20' หรือการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ชาติ ผ่านการประชุมทางไกล โดยมีผู้นำชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธารัสเซีย และนายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้าร่วม
โดยนายทรัมป์ได้กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งโดยยืนยันว่าสหรัฐฯจะฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วเพราะวัคซีนที่ได้ค้นพบ และได้อ้างว่าต่อไปอีกว่าวิธีที่เขาได้ทำนั้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 และเป็นวิธีที่ทำให้ประสบความสำเร็จในด้านของการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นายทรัมป์ยังได้กล่าวกับผู้นำประเทศอื่นๆต่อไปอีกว่าเขาตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำงานกับผู้นำประเทศอื่นๆไปอีกนาน
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ไม่ได้กล่าวในที่ประชุมว่าสหรัฐฯจะช่วยเหลือให้วัคซีนสามารถกระจายไปทั่วโลกได้อย่างไรบ้าง ขณะที่ผู้นำประเทศอื่นๆ อาทินายสึกะ ได้มีความเห็นพ้องกันชัดเจนว่าควรจะให้วัคซีนแพร่หลายไปยังประชาคมโลกอย่างทั่วถึง
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในสหรัฐฯมีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้สูตรยาร่วม หรือที่เรียกกันว่า "ค็อกเทล" ของบริษัทรีเจเนอรอน หนึ่งในผู้ประกอบการด้านชีวเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐ โดยสูตรยาดังกล่าวในปัจจุบันมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "REGN-COV2" สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 "ในกรณีฉุกเฉิน" เน้นผู้ป่วยซึ่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู และผู้ป่วยซึ่งมีโรคประจำตัว "ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป" โดยวิธีดังกล่าวนั้นเป็นวิธีเดี่ยวกับที่ได้ใช้รักษานายทรัมป์ซึ่งเคยถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 เมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
เรียบเรียงจาก:https://www.theguardian.com/us-news/2020/nov/22/donald-trump-appears-to-admits-covid-is-running-wild-in-the-us,https://www.straitstimes.com/world/united-states/trump-stays-mum-on-sharing-covid-19-vaccines-as-leaders-pledge-to-do-so