บก.ปทส.สรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ คดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติรวม 4 ข้อหา ส่งให้อัยการราชบุรี โดนทั้งส่วนตัว-นิติบุคคล – เรียก ‘ทวี ไกรคุปต์’ รับทราบข้อหารุกที่ดินรัฐกว่า 1 พันไร่ด้วย
..................................
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 มีรายงานว่า พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงศ์มุนีวร ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. พ.ต.อ.คำนวณ จันทร์อนันต์ รองผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ปทส. และคณะทำงาน เพื่อตรวจสำนวนคดีพร้อมสรุปสำนวนคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้ตรวจทานรายละเอียดสำนวนคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้น บก.ปทส. มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเตรียมส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี สั่งฟ้องคดี โดย น.ส.ปารีณา ได้นัดหมายกับทางพนักงานสอบสวน ในวันที่ 5 พ.ย.ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น. โดยสำนวนคดีมีทั้งหมด 6 แฟ้มจำนวน 2,408 หน้า และได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ น.ส.ปารีณา ร้องขอ 3 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่ดินข้างเคียงแล้ว โดยสั่งฟ้องรวม 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14และม.31 "ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเบ็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต" ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484"ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่" ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน "ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต" และความผิดตามพ.ร.บ.น้ำบาดาลพ.ศ.2520"ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000บาท โดยในส่วนของ น.ส.ปารีณา จะถูกดำเนินคดีทั้งในฐานะบุคคลและนิติบุคคลด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพยาน 3 ปากที่ น.ส.ปารีณา ร้องขอให้สอบเพิ่มเติม ได้แก่ 1.นางลำพูน บุญโต 2.นายไร สลัดเอี่ยม 3.นายรุ่งทวี สลัดเอี่ยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้มีผู้กล่าวหา 5 ราย ประกอบไปด้วย นายวีระ สมความคิด ,นายพัฒนะ ศิริมัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการสำนักป่าไม้จังหวัดราชบุรี , นายสุรเชษฐ์ ศรีแดงรักษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้อำนวยการป่าไม้จังหวัดราชบุรี,นายวัชระ ละอออ่อน นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 และนายสมชาย เลขาวิวัฒน์ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด โดยมี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว หลังพบว่าบุกรุกที่ เขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากการสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อฟ้อง น.ส.ปารีณาแล้ว ทาง บก.ปทส. ได้เรียก นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับ น.ส.ปารีณา ในวันที่ 23 พ.ย.ที่จะถึงนี้ หลังถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐ กว่า 1 พันไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/