ธปท.เผยล่าสุดตามยึดทรัพย์ ‘ราเกซและพวก’ ในคดีทุจริตบีบีซีได้แล้ว 5 พันล้านบาท จากมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 4 หมื่นล้านบาท ชี้หากศาลฎีกาไม่มีคำพิพากษาตัดสินโทษจำคุกเพิ่มอีก ‘ราเกซ’ ในวัย 68 ปี มีลุ้นยื่นพักโทษในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังเข้าเกณฑ์อายุ 70 ปี และต้องโทษจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3
.................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า มีรายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงความคืบหน้าในการติดตามยึดทรัพย์คืนจากนายราเกซ สักเสนา อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี และพวก โดยล่าสุดสามารถยึดทรัพย์คืนได้แล้วเป็นมูลค่า 5,000 ล้านบาท จากมูลค่าความเสียหายที่ระบุในคำฟ้องเป็นเงินบาท 40,288 ล้านบาท และเงินดอลลาร์สหรัฐ 85.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ การติดตามยึดทรัพย์คืนจากนายราเกซและพวกในคดีทุจริตบีบีซี เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ธปท. กับอีก 2 หน่วยงาน คือ สำนักงานอัยการสูงสุด และกรมบังคับคดี ขณะที่การตามยึดทรัพย์คืนดังกล่าวไม่มีอายุความ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายราเกซมีญาติใกล้ชิดที่สุดและยังมีชีวิตอยู่ คือ นางอัมฤต สารุป ซึ่งเป็นมารดา และเป็นนักกฎหมายจบจากมหาวิทยาลัยเยล ปัจจุบันนางอัมฤตอยู่ในวัยกว่า 90 ปีแล้ว โดยพำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า นายราเกซ สักเสนา เป็นนักการเงินการธนาคาร ชาวอินเดีย อดีตที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ เจ้าของฉายา ‘พ่อมดการเงิน’ ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ เมื่อปี 2539 หลังการล้มละลายของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ ในปี 2538 โดยนายราเกซถูกออกหมายจับ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2539
แต่นายราเกซ เดินทางหลบหนีออกจากประเทศไทย ไปอาศัยอยู่ที่เมืองวิสต์เลอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา และถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2539 ต่อมาทางการไทยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่แคนาดา เพื่อนำตัวนายราเกซเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่นายราเกซได้ให้ทนายความยื่นคัดค้าน โดยอ้างว่าถ้าถูกส่งกลับประเทศไทยอาจถูกสังหารหรือถูกขังในคุกอย่างโหดร้ายทารุณ
ต่อมาศาลฎีกาแคนาดามีคำพิพากษายกคำร้องคัดค้านของนายราเกซเมื่อเดือนพ.ย.2551 เป็นผลให้ทางการแคนาดาต้องส่งตัวนายราเกซ มาให้ทางการไทยตามกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนวันที่ 31 ต.ค.2552
หลังจากนั้นในเดือนมิ.ย.2555 ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาให้จำคุกนายราเกซ เป็นเวลา 10 ปี ปรับ 1 ล้านบาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขัง 2 ปี และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้กับธนาคารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ เป็นจำนวนเงิน 1,132 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ปัจจุบันนายราเกซมีอายุ 68 ปี และมีโอกาสยื่นขอพักการลงโทษ เมื่อมีอายุ 70 ปีขึ้นไป และต้องโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษตามกำหนดโทษ (กรณีนักโทษชั้นเยี่ยม) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนายราเกซและพวก ยังมีคดียักยอกทรัพย์ที่ยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลอีกนับสิบคดี หากมีคดีใดที่ศาลฎีกาพิพากษาให้นายราเกซต้องโทษจำคุกอีก นายราเกซจะไม่มีสิทธิได้รับการพักโทษตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้
(แฟ้มภาพ ราเกซ สักเสนา ที่มาภาพ : สถานีโทรทัศน์ TPBS)
ขอบคุณภาพ : สถานีโทรทัศน์ TPBS
อ่านประกอบ :
ศาลสั่ง ‘ราเกซ’ นักโทษคดีทุจริต ‘บีบีซี’ ล้มละลาย -เคยถูกพิพากษาชดใช้ 1.1 พันล.
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage