'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 35.3 ล.-'โดนัลด์ ทรัมป์' ทักทายผู้สนับสนุนผ่านขบวนรถ ยันได้เรียนรู้เยอะเกี่ยวกับโควิด-'เคนโซ่ ทาเคดะ' ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์เสื้อเคนโซ่เสียชีวิตที่ฝรั่งเศส-'อินเดีย' คาดไม่เกิน ก.ค. 2564 ฉีดวัคซีนให้ ปชช.ได้ 250 ล้านราย- 'ญี่ปุ่น' เคาะแผน เม.ย. 64 ทดลองให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไม่ต้องกักตัว 14 วัน เตรียมอนุมัติ 'ยาไข้หวัดใหญ่' ใช้รักษาโควิด พ.ย.นี้
-----------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 35,383,895 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 244,128 ราย เสียชีวิต 1,041,498 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,968 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 7,633,561 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 31,096 ราย เสียชีวิต 214,593 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 314ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 2,744 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานว่านายทรัมป์ได้ออกไปทักทายผู้สนับสนุนที่มารอให้กำลังใจอยู่หน้าศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติ วอลเตอร์ รีด ด้วยวิธีการนั่งอยู่ในรถขบวนประธานาธิบดี และโบกมือทักทางผู้สนับสนุนผ่านกระจกรถขบวน
อนึ่ง ก่อนหน้าที่นายทรัมป์จะได้ออกไปทักทายผู้สนับสนุน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกวิดีโอส่วนตัวอีกชุดหนึ่ง โดยกล่าวขอบคุณเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ทหาร ซึ่งตัวเขาเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายกับไวรัสโควิด-19 และเขาก็มีเซอร์ไพรส์สำหรับผู้ที่สนับสนุนในตัวเขา (ดูวิดิโอประกอบ)
อ้างอิงวิดีโอจาก โกลบอลนิวส์
อย่างไรก็ตาม จากการออกเยี่ยมดังกล่าว ทำให้ นพ.เจมส์ ฟิลลิป แพทย์จากศูนย์การแพทย์ทหารฯออกมาวิจารณ์ว่าการกระทำของประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นการกระทำที่ขาดสติและอาจส่งผลต่อสุขภาพของหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้ขับรถรวมถึงอยู่ในรถคันเดียวกับนายทรัมป์ได้
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,915,289 ราย ติดเชื้อใหม่ 8,456 ราย เสียชีวิต 146,375 ราย เสียชีวิตใหม่ 364 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,215,001ราย ติดเชื้อใหม่ 10,499 ราย เสียชีวิต21,358 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 107 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 12,565 ราย และล่าสุดมีรายงานว่าประเทศฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งให้มีการปิดผับบาร์นับตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. เพื่อควบคุมการระบาดในประเทศ
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศฝรั่งเศสมีรายงานว่านายเคนโซ่ ทาเคดะ ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อดัง เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเคนโซ่ ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 81 ปีอันเนื่องมาจากกการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 หลังจากที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล American Hospital of Paris ในเมือง Neuilly-sur-Seine
อ้างอิงรูปภาพ นายเคนโซ่ ทาเคดะจากอัลจาซีร่า
ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,578 ราย
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 7,982 ราย ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,515 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 6,622,135 ราย ติดเชื้อใหม่ 74,722 ราย เสียชีวิตสะสม 102,714 ราย เสียชีวิตใหม่ 902 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
และล่าสุดมีการประมาณการจากรัฐบาลอินเดียว่า ประชาชนอินเดียอย่างน้อย 1 ใน 5 หรือประมาณ 250 ล้านคน อาจจะได้รับวัคซีนซึ่งมีจำนวนฉีด 2 โดสก่อนเดือน ก.ค. 2564
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 401 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 108 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
และล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ร่างแผนการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อแผนว่า Journey และคาดว่าจะมีการทดลองใช้ แผนนี้ได้ในเดือน เม.ย. 2564 โดยรายละเอียดของแผนประกอบไปด้วย
1. นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องขอวีซ่าจากสถานกงสุลหรือสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศตนเอง 2. โหลดแอปพลิเคชั่นตรวจสอบและดูแลสุขภาพ 3. ตรวจสอบด้วยการตรวจทางแล็บ หรือตรวจ PCR ว่าผลโควิดเป็นลบก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น 4. สมัครประกันเอกชนเพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลระหว่างท่องเที่ยว 5. ตรวจโควิดอีกครั้งว่าเป็น ลบ หรือไม่ตอนเข้าประเทศ โดยถ้าหากผู้ที่ถูกตรวจมีผลเป็นลบก็สามารถเข้าชมการแข่งโอลิมปิกได้ 6. ในช่วง 14 วันหลังจากวันแรกที่เข้าประเทศ ใช้แอปพลิเคชั่นในการรายงานสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ 7.ไม่ต้องกักตัวที่โรงแรมหรือที่พัก และ 8. กรณีมีอาการไข้ ทางประเทศญี่ปุ่นจะจัดเตรียม ศูนย์สำหรับปรึกษาปัญหาสุขภาพเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่เป็นไข้ไปปะปนกับผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น (ดูภาพประกอบ)
อ้างอิงเนื้อหาและรูปภาพจากเพจเฟสบุ๊กกิ๊ฟจังนั่งเล่า และเว็บไซต์สำนักข่าวจิจิเพรส ประเทศญี่ปุ่น
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะอนุมัติยา Avigan ซึ่งเป็นยาสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อที่จะนำยานี้เป็นส่วนหนึ่งในการใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยคาดว่าจะอนุมัติได้ในช่วงเดือน พ.ย. ซึ่งการวางแผนอนุมัติยาดังกล่าวนั้นถือได้ว่ารวดเร็วและล่วงหน้าก่อนที่บริษัท ฟูจิฟิล์ม โทยามะ เคมิคัล ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนายาจะได้ยื่นคำขอให้มีการพิจารณายาของบริษัทในการใช้รักษาผู้ป่วย โดยทางบริษัทมีกำหนดการจะยื่นคำขอในช่วงกลางเดือน ต.ค.
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มีหลายฝ่ายที่แสดงความกังวลว่าการเร่งรีบอนุมัติเพื่อจะนำเอายาดังกล่าวมาใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 นั้น อาจจะทำให้เกิดการละเลยมาตรฐานด้านความปลอดภัย และทำให้เก็บข้อมูลผลข้างเคียงของยาได้ไม่เพียงพอ
อ้างอิงรูปภาพจากสำนักข่าวเจแปนไทม์
ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 64 ราย เสียชีวิตใหม่ 1 ราย
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 322,497 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,190 ราย เสียชีวิตสะสม 5,776 ราย เสียชีวิตใหม่ 100 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 303,498 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,992 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 11,151 ราย เสียชีวิตใหม่ 96 ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 293 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,291 ราย เสียชีวิตใหม่ 41 ราย
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 681,289 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,573 ราย เสียชีวิต 16,976 ราย เสียชีวิตใหม่ 38 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 12 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2 ราย ประเทศนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage