'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 30.3 ล.- 'ยูนิเซฟ'เตือน เด็กอีก 150 ล้านคนทั่วโลกเสี่ยงต่อความยากจน พบ 1 ใน 7 ของผู้ป่วยทั่วโลกเป็นบุคลากรทางการแพทย์-'ซีเอ็นเอ็น'เผยรายงานทดลองวัคซีนส่อปกปิดข้อมูลผลข้างเคียง- 'อังกฤษ'ยกเลิกไทย สิงคโปร์ เข้าประเทศไม่ต้องกักตัว 14 วัน-'จีน'เปิดเที่ยวบินต่างประเทศไป 'อู่ฮั่น' ครั้งแรกหลังเดือน มี.ค. -'อินโดนีเซีย'สั่งเร่งตรวจโควิดเพิ่ม 2 เท่า
........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น30,335,400ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 308,113ราย เสียชีวิต 950,176ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,475 ราย
ขณะที่องค์การยูนิเซฟได้ออกมาเตือนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้ได้เพิ่มจำนวนเด็กมากกว่า 150 ล้านคนทั่วโลกต้องใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน อาทิ การเข้าถึงสิทธิในด้านการศึกษาและการสาธารณูปโภคทีมีไม่เพียงพอ ซึ่ง ณ เวลานี้มีเด็กอย่างน้อยเกือบ 1.2 พันล้านคนทั่วโลกที่ต้องอาศัยอยู่กับความยากจน
ขณะที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก จำนวน 1 ใน 7 พบว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 6,874,596ราย ติดเชื้อรายใหม่ 46,295 ราย เสียชีวิต 202,213 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 879 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 4,604 ราย
และมีรายงานจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ซึ่งได้ข้อมูลเอกสารรายงานของบริษัทแอสตร้า เซนเนก้า ซึ่งพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยลัยออกซ์ฟอร์ด โดยสาระสำคัญของเอกสารนั้นเกี่ยวกับกรณีอาสาสมัครทดลองวัคซีนชาวอังกฤษวัย 37 ปี ซึ่งมีอาการป่วย โดยระบุว่าผู้ป่วยมีอาการป่วยที่อธิบายไม่ได้ อาทิอาการปวดตามแขน การเดินลำบาก และอาการอื่นๆ หลังจากที่เข้ารับการทดลองการรักษา และยังมีการส่งเอกสารดังกล่าวไปยังทีมแพทย์ที่ดำเนินการทดลองดำเนินการทดลองการรักษาทั่วโลกในช่วงวันที่ 10-11 ก.ย.
แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้มีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์บางคนที่บริษัทมีความกังวลว่าการสื่อสารเกี่ยวกับอาการป่วยของอาสาสมัครคนดังกล่าวนั้นอาจจะไม่มีความโปร่งใสทั้งหมด ขณะที่ทางด้านของโฆษกบริษัทได้ชี้แจงว่าคงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ทั้งหมดได้
โดย ณ เวลานี้ได้มีการอนุมัติให้ทดลองการรักษาด้วยวัคซีนระยะ 3 ในหลายพื้นที่รวมถึงที่ประเทศอังกฤษแล้ว แต่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกายังคงไม่สามารถทดลองวัคซีนดังกล่าวได้เนื่องจากต้องรอให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐหรือเอฟดีเอสืบสวนและสอบสวนผลข้างเคียงของวัคซีนเสียก่อน
อ้างอิงรูปภาพจากสำนักข่าวเอบีซี
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,457,443 ราย ติดเชื้อใหม่ 35,757 ราย เสียชีวิต 135,031 ราย เสียชีวิตใหม่ 857 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,085,281 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,762 ราย เสียชีวิต 19,061ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 144 ราย ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 10,593 ราย ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อ 11,291 ราย
ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,585 ราย ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3,395 ราย
และล่าสุดมีรายงานว่าประเทศอังกฤษได้ออกประกาศยกเลิกมาตรการการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์และประเทศไทย โดยทั้ง 2 ประเทศนั้นถือว่าอยู่ในรายชื่อระเบียงประเทศที่ปลอดภัยสำหรับประเทศอังกฤษ หรือก็คือผู้เดินทางจากทั้ง 2 ประเทศมายังประเทศอังกฤษจะไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัว 14 วันแต่อย่างใด
ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,177 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,212,686ราย ติดเชื้อใหม่ 96,793 ราย เสียชีวิตสะสม 84,404ราย เสียชีวิตใหม่ 1,174 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 491 ราย เสียชีวิตใหม่ 9 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 171 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ส่วนที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 153 ราย เสียชีวิตใหม่ 5 ราย
ส่วนที่ประเทศจีน ได้มีการเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เมืองอู่ฮั่นซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดแห่งแรกแล้ว หลังจากที่ต้องมีการยุติการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางมายังเมืองแห่งนี้ในช่วงเดือน มี.ค.
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 276,289 ราย ติดเชื้อใหม่ 3,375 ราย เสียชีวิตสะสม 4,785ราย เสียชีวิตใหม่ 53 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 232,628ราย ติดเชื้อใหม่ 3,635 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 9,222 ราย เสียชีวิตใหม่ 122 ราย
โดยล่าสุดมีรายงานว่ากรุงจาการ์ตาได้ออกมาตรการการตรวจหาเชื้อโควิด 19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2 เท่า เพื่อหาผู้ติดเชื้อแล้ว และยังพบรายงานอีกด้วยว่ามีการบังคับให้ชาวบ้านซึ่งไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยขุดหลุมศพสำหรับผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชนบทของประเทศอินโดนีเซีย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 21 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 222 ราย เสียชีวิตใหม่ 20 ราย และเวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 655,572 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,128 ราย เสียชีวิต 15,772 ราย เสียชีวิตใหม่ 67 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 35 ราย เสียชีวิต 8 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 28 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย
ขณะที่ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage