กกต.ตีตกข้อกล่าวหา บุคคลถูกอ้างเป็นหัวคะแนน ‘เผดิมชัย สะสมทรัพย์’ แจกเงิน 2,500 บาท แต่ตามทางไต่สวนพบว่า แค่คืนเงินจากการยืม ไม่พบลายนิ้วมือเกี่ยวข้อง มีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการ กกต. ที่ 49/2563 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 5 จ.นครปฐม โดยก่อนประกาศผลเลือกตั้ง กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎต่อ กกต. ว่า นางธนิดา ปิยวัชภาสุ (ผู้ถูกร้องที่ 1) ตัวแทนหรือหัวคะแนนของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (ผู้ถูกร้องที่ 2 ปัจจุบันเป็น ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา) มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1) กรณีจัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายเผดิมชัย
กกต. พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ได้ความว่า มีผู้แจ้งข้อมูลให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐมทราบว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2562 เวลาประมาณ 21.30 ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำธนบัตร ฉบับละ 500 บาท รวม 5 ฉบับ เป็นเงิน 2,500 บาท มามอบให้ผู้แจ้ง และบอกให้ผู้แจ้งกับบุคคลในครอบครัวรวม 5 ราย ลงคะแนนให้แก่นายเผดิมชัย
อย่างไรก็ดีจากการไต่สวนผู้แจ้งให้ถ้อยคำว่า ไม่เคยเป็นผู้แจ้งข้อมูลตามข้อกล่าวหา และไม่เคยลงลายมือชื่อในบันทึกการรับแจ้งเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ถูกร้องที่ 1 มีบ้านพักใกล้กับบ้านของผู้แจ้ง และมีความสนิทสนมกับผู้แจ้งมาประมาณ 20 ปี เป็นหุ้นส่วนในการทำธุรกิจค้าขายที่ต่างประเทศ ผู้แจ้งไม่เคยพบเห็นผู้ถูกร้องที่ 1 ช่วยเหลือหรือสนับสนุนเงินจากพรรคการเมืองใด
โดยเงินจำนวน 2,500 บาท ดังกล่าว ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้นำเงินที่เคยยืมมาคืนให้แก่ผู้แจ้ง โดยผู้แจ้งได้นำเงินไปใช้ชีวิตประจำวัน และไม่ได้นำไปมอบให้แก่ผู้ใด ส่วนที่เคยให้ข้อมูลว่าเป็นการแจกเงินซื้อเสียงนั้น เกิดจากความเข้าใจผิด เนื่องจากทราบภายหลังว่าผู้ถูกร้องที่ 1 นำเงินมาชำระหนี้ที่เคยยืมไปก่อนหน้านี้ ไม่เกี่ยวกับการแจกเงินซื้อเสียง
นอกจากนี้ผู้นำชุมชนพื้นที่ ต.ท่าตลาด ให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่า ไม่พบเห็นการแจกเงินหรือมีบุคคลใดช่วยผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดหาเสียง อีกทั้งจากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ช่วยหาเสียงของนายเผดิมชัยแล้ว ไม่ปรากฏรายชื่อของผู้ถูกร้องที่ 1 และจากการตรวจสอบธนบัตรของกลาง โดยศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รายงานผลการตรวจเก็บวัตถุพยานว่าไม่พบลายนิ้วมือของผู้ที่ถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับธนบัตรดังกล่าว
ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 2 ราย กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (1) ตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายเผดิมชัย จาก https://www.thairath.co.th/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage