ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้อง ‘มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชน-ผอ.บริหาร-บก.สำนักข่าวอิศรา’ หลังนำเสนอข่าว ‘สุรพล เมฆะอำนวยชัย’ เป็นผู้สอบบัญชีเครือข่ายเอกชนขอคืนภาษีกรมสรรพากร 4.3 พันล. ชี้เป็นการรายงานตามความจริง-ไม่มีข้อความเสริมแต่ง
.....................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่นายสุรพล เมฆะอำนวยชัย อดีตผู้สอบบัญชีเครือข่ายเอกชนที่มีการขอคืนภาษีจากกรมสรรพากร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องมูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิศรา และนายเสนาะ สุขเจริญ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าวอิศรา เป็นจำเลยที่ 1-3 ในคดีหมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กรณีสำนักข่าวอิศราเผยแพร่ข่าวและรายงานเกี่ยวกับเครือข่ายเอกชนในคดีทุจริตคืนภาษีกรมสรรพากร วงเงินกว่า 4.3 พันล้านบาท
โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนักข่าวอิศราเป็นผู้จัดตั้งเผยแพร่ข่าวสารของสถาบันอิศราทางระบบอินเทอร์เน็ตทั่วราชอาณาจักร ได้นำเสนอข่าวเรื่องทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยข้อความตามฟ้องของโจทก์ล้วนเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามความจริง ไม่ว่าจะระบุว่าเป็นผู้สอบบัญชี 58 บริษัท ว่าคือตัวโจทก์ (นายสุรพล) หรือว่าผู้สอบบัญชีบริษัท หรือตัวโจทก์นั้นเคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครักษ์สันติ หรือกรณีพบว่านายวีรยุทธ และ น.ส.สายธาร แซ่หลก (2 รายนี้เป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีคืนภาษี ปัจจุบันหลบหนี) จัดตั้งบริษัท ซีเอ็นบีซี เมทัล เทรด จำกัด โดยมีโจทก์เป็นผู้สอบบัญชี และข้อความที่ว่า เปิดปูมหลังสุรพล เมฆะอำนวยชัย-เครือญาติ ก่อนร่วมขบวนสอบภาษีบริษัทเครือข่ายคืนภาษี
ข้อความที่จำเลยทั้ง 3 ราย นำเสนอข่าวผ่านสถาบันอิศรา ล้วนเป็นไปตามความจริงว่า โจทก์มีตำแหน่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทต่าง ๆ ที่มีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากกรมสรรพากรเท่านั้น ไม่มีข้อความเสริมแต่งประการใดว่าโจทก์รู้เห็นเกี่ยวข้องด้วยการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นด้วย การกระทำของจำเลยทั้ง 3 รายตามฟ้องของโจทก์ จึงยังไม่พอฟังได้ชัดแจ้งว่า เป็นการหมิ่นประมาทต่อโจทก์ ดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage