อ้าง‘บิ๊ก รบ.’ล็อบบี้อนุ กมธ.โหวตซื้อเรือดำน้ำ 'ประวิตร'ปัดเอี่ยว-'สุพล'ซัดไร้หลักฐาน

‘ยุทธพงศ์’ อ้างมี ‘บิ๊ก รบ.’ โทรล็อบบี้ อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ โหวตเห็นชอบจัดซื้อเรือดำน้ำ 2.25 หมื่นล้าน เผย 26 ส.ค.ชงขอให้ กมธ.งบประมาณฯเบรกไว้ก่อน ลั่นเรื่องนี้ต้องถึง ป.ป.ช. - 'บิ๊กป้อม'ปัดเอี่ยว ยันสัญญาไม่โมฆะ - 'สุพล ฟองงาม' ยันไม่มีล็อบบี้ ซัดมีหลักฐานอะไรเอามาพูด

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2563 ที่รัฐสภา นายสุพล ฟองงาม ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (อนุ กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ระบุมี 'บิ๊ก ป.' ในรัฐบาล โทรศัพท์สั่งการให้อนุ กมธ.อนุมัติการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำของกองทัพเรือ วงเงิน 22,500 ล้านบาทว่า เบื้องต้นได้ต่อว่านายยุทธพงศ์ไปแล้วว่าพูดได้อย่างไรโดยไม่มีข้อเท็จจริง เพราะคนที่นั่งเป็นประธานอนุ กมธ.ไม่มีโอกาสรับโทรศัพท์ เวลาตนทำหน้าที่ประธานจะปิดโทรศัพท์ตลอด

"ยืนยันไม่มีใครโทรมาสั่งการ เป็นการปั้นน้ำเป็นตัว เรื่องนี้ผมไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับนายยุทธพงศ์ แต่นายยุทธพงศ์ต้องมาเคลียร์กับผม สิ่งที่พูดไปไม่มีข้อเท็จจริง ในการประชุมอนุ กมธ.วันที่ 24 ส.ค.ได้นัดนายยุทธพงศ์ทางไลน์ของ อนุ กมธ.ให้มาแถลงร่วมกัน เพื่อเคลียร์เรื่อง พล.อ.ป. ว่า ใครพูดเท็จ พูดจริง แต่นายยุทธพงศ์ไม่มา และนายยุทธพงศ์ไม่ตอบไลน์ เงียบ ทั้งที่ปกติเป็นคนไม่ยอมอะไรง่าย ๆ แต่ครั้งนี้เงียบ" นายสุพล กล่าว

เมื่อถามว่า หากคุยกับนายยุทธพงศ์ไม่รู้เรื่องจะดำเนินการอย่างไร นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนลูกผู้ชายไม่ค้าความ แต่นายยุทธพงศ์ต้องเคลียร์ว่า สิ่งที่พูดเรื่องนายพล ป. เอาหลักฐานอะไรมาพูด มีพยานหรือไม่ ซึ่งไม่มี

ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจในฐานะประธานอนุ กมธ.เห็นชอบให้จัดซื้อเรือดำน้ำ ทั้งที่ประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 นั้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องนี้เราแขวนไว้ 1 รอบแล้ว เท่าที่ฟังเสียง กมธ.ส่วนใหญ่ในรอบแรกพยายามให้กองทัพเรือเลื่อนการจัดซื้อไปก่อน แต่กองทัพเรือพยายามชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นว่า เลื่อนไม่ได้ ที่สำคัญงบประมาณตัวนี้เป็นงบผูกพันตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 ทางอนุกมธ.แค่ยืนยันให้ดำเนินการตามแผนที่ตกลงกับจีนไว้ ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องเก่าที่อนุมัติไว้แล้ว หากถามว่า เหตุใดตัดสินใจในช่วงที่คะแนนออกมา 4-4 ซึ่งข้อบังคับเขียนให้ประธานอนุกมธ.ต้องออกเสียงชี้ขาด ขอถามว่า ตนสังกัดพรรคใด ตนสังกัดพรรครัฐบาล

นายสุพล กล่าวว่า อนุกมธ.ได้เสนอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำให้ กมธ.งบประมาณชุดใหญ่ไปแล้ว จึงไม่ทราบว่า กมธ.ชุดใหญ่จะตัดสินใจอย่างไร เพราะเป็นอำนาจของ กมธ.ชุดใหญ่ เรามีหน้าที่แค่ไปรายงานเท่านั้น ในอนุกมธ.มีหลายคนเป็น กมธ.ชุดใหญ่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคนจะโหวตเห็นชอบหรือไม่ เพราะการโหวตถือเป็นอิสระ

เมื่อถามว่า หากงบซื้อเรือดำน้ำผ่าน กังวลจะเป็นแรงกดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจเรื่องนี้หรือไม่ นายสุพลตอบว่า ทำไมจะไม่ห่วง เพราะดูจากโซเชียลแล้วน่าห่วง บางทีสังคมไทยต้องมีสติฟังเหตุผลบ้าง ไม่ใช่เที่ยวพูดว่า เรือดำน้ำกินแทนข้าวไม่ได้ ขณะเดียวกันเราต้องฟังเหตุผลกองทัพเรือที่เป็นฝ่ายความมั่นคงด้วย

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยแถลงระบุสัญญาจีทูจีการจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่ใช่สัญญาจีทูจีจริงนั้น นายสุพล ตอบว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกองทัพเรือ ไม่ใช่หน้าที่ตนและอนุกมธ.ต้องตอบ ขอให้รอฟังกองทัพเรือชี้แจงข้อเท็จจริง.

@'ยุทธพงศ์'อ้างมี 'บิ๊กรัฐบาล' สั่งล็อบบี้อนุ กมธ.โหวตผ่านซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ 2.25 หมื่นล้านบาท 

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (อนุ กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ลงมติผ่านความเห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 2 ลำ วงเงิน 22,550 ล้านบาทว่า กรณีดังกล่าวในการประชุมคณะอนุ กมธ.ชุดนั้น มีการลงมติคะแนนเสมอกัน 4 ต่อ 4 ตนขอร้องนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะ อนุ กมธ.ชุดดังกล่าว ขอให้อย่าลงมติ ให้นำเรื่องนี้ไปหาข้อยุติในที่ประชุม กมธ.งบประมาณฯ แต่นายสุพล ไม่ยอม และลงมติเห็นชอบการจัดซื้อ คะแนนเสียงจึงกลายเป็น 5 ต่อ 4 ดังนั้นในการประชุม กมธ.งบประมาณฯ ในวันที่ 26 ส.ค. 2563 จะขอให้ทบทวนมติของคณะอนุ กมธ.ชุดดังกล่าว เพราะกองทัพเรือชี้แจงไม่เคลียร์ สัญญาการจัดซื้อจัดจ้างแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไม่มีผลผูกพันกับการซื้อเรือดำน้ำที่ 2 และ 3 ถึงจะเป็นงบประมาณเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่งบประมาณปี 2563 แต่ขณะนี้ปี 2564 วิกฤติโควิด-19 ยังอยู่ อยากให้เลื่อนการจัดซื้อไป 1 ปี เพราะเรือดำน้ำลำแรกได้มาในปี 2567 ควรรอให้ได้เรือดำน้ำลำแรกก่อน แล้วค่อยจัดซื้อลำที่ 2 และ 3

ส่วนกรณีกระแสข่าวอ้างว่ามี ‘บิ๊กรัฐบาล’ โทรศัพท์มาล็อบบี้สั่งการให้คณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์โหวตเห็นชอบจัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าวนั้น นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทุกคนรู้กันทั้งห้อง ในช่วงที่คณะอนุ กมธ.พักประชุม 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการโหวตลงมติ มีการเรียกคณะอนุ กมธ.ฝ่ายรัฐบาลไปคุยกัน เชื่อว่าอาจมีการไปล็อบบี้กันในช่วงเวลานั้น โดยมีเพื่อนจากคณะอนุ กมธ.ฝ่ายรัฐบาลบอกตนว่ามี ‘บิ๊กรัฐบาล’ โทรศัพท์มาล็อบบี้ให้โหวตสนับสนุนการซื้อเรือดำน้ำ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2563 ที่ประชุมคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ประชุมกัน ทุกคนไม่มีใครเห็นด้วยให้จัดซื้อเรือดำน้ำ แต่กองทัพเรือยืนยันความจำเป็นต้องจัดซื้อ เพราะมีสัญญาจีทูจีผูกพัน และมีเอกสารการลงนามระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ รมว.กลาโหมจีน ที่ตกลงจะซื้อเรือดำน้ำ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้แขวนเรื่องนี้ไว้ก่อน โดยให้กองทัพเรือนำเอกสารเหล่านี้มาชี้แจงต่อคณะอนุ กมธ.ครั้งถัดไป

“วันที่ 21 ส.ค. 2563 กองทัพเรือนำเอกสารเหล่านี้มาชี้แจงต่อที่ประชุมคณะอนุ กมธ.ชุดดังกล่าว แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า มีแค่การระบุว่า ให้ซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 แค่ลำเดียว ไม่ได้ข้อผูกพันว่า จะต้องซื้อลำที่ 2 และ 3 โดยเอกสารที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปลงนามร่วมกับ รมว.กลาโหมจีน ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อเรือดำน้ำ ที่สำคัญเอกสารการลงนามซื้อเรือดำน้ำ ลำแรกที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ไปลงนามจัดซื้อนั้น เป็นการลงนามกับบริษัทแห่งหนึ่ง ถึงจะอ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่ไม่ใช่รัฐบาลจีน ถือว่าเป็นการลงนามไม่ถูกต้อง” นายยุทธพงศ์ กล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ต้องถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แน่ ทั้งนี้ในการประชุมคณะอนุ กมธ.เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2563 กองทัพเรือได้ยืนยันถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่สามารถเลื่อนการจัดซื้อได้อีกแล้ว แต่ปรากฏว่า การประชุมวันดังกล่าว คณะอนุ กมธ.ที่เคยคัดค้านการซื้อเรือดำน้ำ มากลับลำในสิ่งที่ตัวเองเคยพูด อนุมัติให้ซื้อเรือดำน้ำได้ จะเป็นได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครสั่งมา ขอท้าให้เปิดบันทึกชวเลขในที่ประชุมวันที่ 17 ส.ค. 2563 จะได้รู้ว่าใครพูดอย่างไรบ้าง

@'บิ๊กป้อม'ปัดล็อบบี้อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯโหวตผ่านซื้อเรือดำน้ำ-ยันตอนรับผิดชอบอยู่ไม่โมฆะ

วันเดียวกัน ที่ศาลากลางจังหวัดระยอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า 'นายพล ป.' ล็อบบี้คณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ โหวตผ่านงบจัดซื้อเรือดำน้ำน้ำ โดย พล.อ.ประวิตร ย้อนถามกลับว่า จะล็อบบี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องของ กมธ.

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุสัญญการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำมูลค่า 22,500 ล้านบาท อ้างว่าจะเป็นโมฆะ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอนที่ตนรับผิดชอบดูแลอยู่ไม่โมฆะ เพราะมีการลงนาม ให้รอฟังแถลงการจากกองทัพเรือในวันเดียวกันนี้ เวลา 13.30 น.

เมื่อถามย้ำว่า มีความกังวลว่า การซื้อเรือดำน้ำ จะทำให้เป็นประเด็นบานปลายเกิดการชุมนุมลุกลามมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ๆ

หมายเหตุ : ภาพประกอบนายยุทธพงศ์ จาก https://www.brighttv.co.th/, ภาพ นายสุพล และ พล.อ.ประวิตร จาก https://www.thaipost.net/

อ่านประกอบ : จ้างสำรวจที่ดินสร้างอู่จอดแล้ว! ทร.แจงปมร้อนซื้อเรือดำน้ำ 24 ส.ค.-‘สุพล’ชง กมธ.งบฯถอย

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage