'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อสะสม 18.6 ล.เสียชีวิตทะลุ 7 แสน -UN เตือนนักเรียนนับพันล.ทั่วโลกรับผลกระทบช่วงหยุดเรียน-'ทรัมป์' ชี้ตัวเลขคนตายสหรัฐฯเกิน 1.5 แสน 'มันก็เป็นอะไรที่เป็นนี่แหละ' เท็กซัส ติดเชื้อใหม่ 1.1 หมื่น - เลขาฯสำนักปธน.บราซิลติดเชื้อด้วย- 'WHO'เตือน 'รัสเซีย' ยึดหลักความปลอดภัยก่อนผลิตวัคซีนจำนวนมาก- ผู้ว่า 'โอซาก้า' พบยาบ้วนปากใช้รักษาผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 5 ส.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 18,652,750 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 215,362 ราย เสียชีวิต 702,177 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,094 ราย
ขณะที่องค์การสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาเตือนว่า ณ เวลานี้ โลกกำลังจะพบกับความเสี่ยงในด้านหายนะของช่วงอายุที่จะได้รับการศึกษา อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่นักเรียนจำนวนมากกว่า 1 พันล้านคนใน 160 ประเทศ และเด็กก่อนวัยเรียนอย่างน้อย 40 ล้านคน ต้องหยุดการไปโรงเรียนนับตั้งแต่กลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น ณ เวลานี้ ภารกิจที่เร่งด่วนและควรจะกระทำโดยเร็วที่สุดก็คือ การเอานักเรียนกลับเข้าสู่การเรียนการสอนอย่างปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 4,917,509 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 53,593 ราย เสียชีวิต 160,256 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,328 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 11,088 ราย
ส่วนสถานการณ์อื่นๆ ในประเทศสหรัฐฯ มีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับนายโจนาธาน สวอน ผู้สื่อข่าวสายการเมือง รายการ Axios ซึ่งออกอากาศทางช่อง HBO โดยนายทรัมป์ได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ตอนหนึ่งว่า ทีมงานบริหารของเขาสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งการระบาดเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้กระทั่งกรณีไข้หวัดสเปนในปี ค.ศ. 1917 ที่ลามไปถึงปี ค.ศ. 1919 โดย ณ เวลานี้ก็มีอีกกว่า 188 ประเทศทั่วโลกที่ต้องเผชิญกับภาวการณ์ระบาด และบางประเทศก็มีสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าสหรัฐฯมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศสหรัฐฯที่มีจำนวนมากกว่า 155,000 ราย นายทรัมป์ กลับมีท่าทีที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และกล่าวว่า “มันก็เป็นอะไรที่เป็นนี่แหละ”
อ้างอิงวิดีโอการสัมภาษณ์นายโดนัลด์ ทรัมป์จากช่อง HBO
ส่วนที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสม 443,813 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,767 ราย เสียชีวิต 48,012 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 266 ราย
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 2,808,076 ราย ติดเชื้อใหม่ 56,411 ราย เสียชีวิต 96,096 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,394 ราย ทำให้บราซิลกลับมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดในโลกอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ณ เวลานี้มียาไฮดรอกซีคลอโรควัน ที่ถูกส่งมาจากสหรัฐฯเป็นจำนวนรวม กว่า 2 ล้านโดส ถูกเก็บที่โกดังในเมืองเซาโปโล คาดว่ายาทั้งหมดนั้นจะถูกทำลายในที่สุด
สำหรับยาไฮดรอกซีคลอโรควินนั้น ทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและนายณาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล เคยออกมาสนับสนุนว่ายาตัวนี้สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 19 ได้
อย่างไรก็ตาม จากการทดลองของหน่วยงานสุขภาพทั่วโลกรวมไปถึงศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯหรือซีดีซี ได้ออกมาแถลงว่ายาชนิดนี้ไม่มีผลต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 แต่อย่างใด
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆในประเทศสหรัฐฯ มีรายงานว่า นายจอร์เก้ โอลิเวียร่า เลขาธิการสำนักประธานาธิบดีบราซิล ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเขาติดเชื้อโควิด 19 เช่นกัน
นายจอร์เก้ โอลิเวียร่า เลขาธิการสำนักประธานาธิบดีบราซิล (อ้างอิงรูปภาพจาก https://congressoemfoco.uol.com.br)
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 861,423 ราย ติดเชื้อใหม่ 5,159 ราย เสียชีวิต 14,351 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 144 ราย
ขณะที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ก็ได้ออกมาเตือนประเทศรัสเซียว่า ควรที่จะยึดหลักมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการผลิตวัคซีนอันมีประสิทธิภาพ
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายเดนิส มานทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของประเทศรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลรัสเซียจะเริ่มกระบวนการผลิตวัคซีนต้านโควิดเป็นจำนวนมากที่คิดค้นโดย สถาบันวิจัยวิทยาการระบาดและจุลชีววิทยาแห่งชาติกามาเลอี (Gamalei National Research Center for Epidemiology and Microbiology) ได้ในช่วงเดือน ก.ย. และคาดว่าจะผลิตวัคซีนได้เป็นจำนวนหลายล้านโดสต่อเดือนได้ในช่วงต้นปี 2564
ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,906,613 ราย ติดเชื้อใหม่ 51,282 ราย เสียชีวิตสะสม 39,820 ราย เสียชีวิตใหม่ 849 ราย
ส่วนที่ประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อใหม่ 36 ราย เป็นการระบาดจากต่างประเทศจำนวน 6 ราย อีก 28 ราย เป็นการระบาดในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และอีก 2 ราย เป็นการระบาดในมณฑลเหลียวหนิง
ขณะที่ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 80 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,238 ราย เสียชีวิตใหม่ 4 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 309 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ส่วนสถานการณ์อื่นๆในประเทศญี่ปุ่นมีรายงานจากผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดะ พบข้อมูลว่า นับตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวญี่ปุ่นวัยทำงานจำนวนมากกว่าร้อยละ 60 ที่เริ่มมีอาการป่วยอาทิ มีไข้ขึ้นสูง และอาการอื่นๆซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณของไวรัสโควิด 19 ยังคงเดินทางไปทำงานที่ทำงานของตัวเอง แม้ว่าช่วงเวลาดังกล่าวรัฐบาลญี่ปุ่นจะขอให้หยุดงานถ้าหากมีอาการป่วยก็ตาม
ขณะที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกมาเปิดเผยในระหว่างการพบปะกับพรรคแอลดีพีซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่นว่า นโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นตอนนี้จะต้องจับตาพื้นที่สำคัญจำนวน 3 แห่ง ด้วยกันได้แก่กรุงโตเกียว เมืองโอซาก้า และจังหวัดโอกินาว่า หลังจากที่ 3 พื้นที่นั้นมีจำนวนผู้ติดโควิด 19 รายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดโอกินาว่าได้ประกาสภาวะฉุกเฉินไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนที่เมืองโอซาก้า นายฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าราชการเมืองโอซาก้า ได้ออกมาเปิดเผยผลวิจัยว่าน้ำยาบ้วนปากนั้นสามารถจะใช้เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งมีอาการไม่รุนแรงได้
นายฮิโรฟูมิ กล่าวด้วยว่า จากการทดสอบซึ่งจำกัดวงผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการไม่รุนแรงจำนวน 41 ราย ได้มีการทดลองใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อเบตาดีนการ์เกิลเพื่อรักษาผู้ป่วยเหล่านี้เป็นจำนวน 4 ครั้งต่อวัน พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 4 วัน ยาบ้วนปากดังกล่าวสามารถลดจำนวนผู้ป่วยได้เพิ่มเติมอีก 9.5 เปอร์เซ็นต์ โดยเทียบกับอีก 40 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มทดลองที่มีการใช้น้ำเปล่าบ้วนปากเพียงอย่างเดียว
“มันคุ้มค่าที่จะลอง น้ำยาบ้วนปากเหล่านี้เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามร้านขายยา และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด”นายฮิโรฟูมิกล่าวเชิญชวนผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อเบตาดีนการ์เกิล
น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อเบตาดีนการ์เกิลที่ขายในประเทศไทย (อ้างอิงรูปภาพจาก www.pchome.co.th)
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 115,056 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,922 ราย เสียชีวิตสะสม 5,388 ราย เสียชีวิตใหม่ 86 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในอาเซียน
ขณะที่ ฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6,352 ราย ทำให้ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1ราย เวียดนามมีผู้ติดเชื้อใหม่ 18 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 521,318 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,456 ราย เสียชีวิต 8,884 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 345 ราย
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 452 ราย และมีผู้เสียชีวิตใหม่อีก 11 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 439 ราย และในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 12 ราย
ส่วนปาปัวนิวกินี มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage