ไทยพบโควิดเพิ่ม 3 ราย หนึ่งในผู้ป่วยเป็นทหารมาจากอียิปต์ เข้าพักโรงแรม-เดินห้างสรรพสินค้า จ.ระยอง สธ.สั่งสอบสวนโรคอย่างละเอียด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน โดยวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ทั้งหมดตรวจพบเชื้อในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม รวม 3,220 ราย ส่วนในประเทศไม่พบเชื้อ 49 วันติดต่อกัน ขณะเดียวกันหายป่วยเพิ่ม 2 ราย รวมผู้ป่วยหายดี 3,090 ราย เสียชีวิตคงเดิมที่ 58 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 2 รายเป็นคนไทยเดินทางกลับคูเวต และบาห์เรน ส่วนอีกรายเป็นทหารสัญชาติอียิปต์อายุ 43 ปี เดินทางออกจากประเทศอียิปต์ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. จากนั้นเดินทางไปปากีสถานวันที่ 7 ก.ค. และถึงไทยในวันที่ 8 ก.ค.
ต่อมาวันที่ 9 ก.ค.เดินทางออกจากโรงแรมไปสนามบินอู่ตะเภาเพื่อบินไปทำภารกิจทางทหารที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน แล้วกลับมาในวันเดียวกัน จากนั้นวันที่ 10 ก.ค.เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองอาการป่วยทั้งคณะ 31 ราย และวันที่ 11 ก.ค.คณะดังกล่าวเดินทางออกจากไทยกลับอียิปต์ ซึ่งวันดังกล่าวผลตรวจค่อนข้างมีความกำกวมจึงได้ส่งตรวจซ้ำอีกครั้ง และส่งตรวจซ้ำ กระทั่งวันที่ 12 ก.ค.ผลตรวจพบว่าทหารคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด
“เนื่องจากตอนนี้มีการเปิดสายการบินหลายสาย และกรณีนี้เดินทางมาที่สนามบินอู่ตะเภา ทำให้มาตรการคุมเข้มเรื่องนี้มีข้อที่ต้องทบทวนและต้องปฏิบัติกันใหม่ โดยพบว่าโรงแรม จ.ระยอง ถือเป็นสถานที่พบเชื้อ ณ ตอนนี้มาตรการสอบสวนโรคต้องครอบคลุมโรงแรมนี้ทั้งหมด โดยอธิบดีกรมควบคุมโรคได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบโรคอย่างละเอียด”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พบว่าทีมลูกเรือได้เดินทางออกจากโรงแรมไปยังสถานที่บางแห่งใน จ.ระยอง ทำให้สถานที่ต่างๆ ในจังหวัดต้องได้รับการสอบสวนโรคทุกแห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้า ชุดข้อมูลนี้ไม่มีปกปิด ทางสำนักป้องกันควบคุมโรค (สคร.) จะร่วมทำงานกับหน่วยงานทีเกี่ยวข้องเพื่อสอบสวนโรคเพื่อความปลอดภัยของทุกคน หากใครคิวด่าตัวเองมาความเสี่ยงหรือสัมผัส ขอให้โทรศัพท์มาที่สาธารณสุขจังหวัดระยอง 1422 ทั้งนี้โรงแรมดังกล่าวถือเป็นสถานที่สัมผัสกับผู้พบเชื้อ ฉะนั้นการเข้าไปสอบสวนโรคจะต้องครอบคลุมโรงแรมแห่งนี้ด้วย
ส่วนกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ 14 รายเดินทางจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีกรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 9 ขวบเป็นครอบครัวคณะทูตจากแอฟริกา ทั้งหมดเดินทางจากแอฟริกาวันที่ 7 ก.ค. รวม 5 คน โดยผลตรวจก่อนขึ้นเครื่องไม่พบเชื้อโควิด กระทั่งเดินทางมาถึงไทยวันที่ 10 ก.ค. ผ่านด่านคัดกรองไม่มีอาการแต่เก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบเชื้อในเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ บิดาเด็กหญิงจึงนำตัวไปรักษาที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน กทม.มีการตรวจซ้ำ ขณะที่ครอบครัวเด็กหญิงคนดังกล่าวพำนักที่คอนโดแห่งหนึ่งใน กทม. โดยวันที่ 11 ก.ค.เด็กหญิงคนดังกล่าวมีอาการปอดอักเสบและมีการส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง
“รายนี้ถือเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มบุคคลที่อยู่ใน กลุ่มบุคคลในคณะทูต คณะกงสุล ที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทย เราทำอย่างนี้มาตั้งแต่แรกให้เกียรติกันและกัน ให้ท่านได้อยู่ในสถานทูตของท่าน เป็นการกักพื้นที่ส่วนตัว (Self Quarantin)e ซึ่งก็เป็นพื้นที่ของท่าน 14 วัน อยู่ในมาตรการเมื่อเดินทางมาถึง ตรงนี้เราเห็นความไม่ตรงกันในหลายสถานที่ เป็นสิ่งที่เราต้องกำหนดมาตรการโดยละเอียดกว่านี้ เมื่อมีความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้ว คงไม่สามารถโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือใครก็แล้วแต่เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ร่วมกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ขณะที่สถานการณ์โลกพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันเดียว 193,906 ราย ยอดรวม 13,035,942 ราย รักษาหายแล้ว 7,582,035 ราย เสียชีวิตรวม 571,571 ราย
โดยสหรัฐฯ พบผู้ป่วยวันเดียว 58,349 ราย รวม 3,413,995 ราย เสียชีวิต 137,782 ราย บราซิล พบผู้ป่วยวันเดียว 25,364 ราย รวม 1,866,176 ราย เสียชีวิต 72,151 ราย และอินเดีย พบผู้ป่วยวันเดียว 29,108 ราย รวม 879,446 ราย เสียชีวิต 23,187 ราย ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 100 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage