'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โคโรน่าไวรัสทั่วโลกล่าสุด ยอดสะสมทะลุ 13 ล้าน - WHO แถลงพบผู้ติดเชื้อมากต่อเนื่องใน 'สหรัฐ- อินเดีย-บราซิล - แอฟริกาใต้' - 'ทีมทรัมป์' โทษ ผอ.สถาบันโรคติดเชื้อสหรัฐฯ ประเมินภัยไวรัสผิดพลาดบอกไม่ต้องสวมหน้ากาก - 'ปธน.'บราซิล ขอ ปชช.พักเรื่องการเมืองมาเริ่มต้นใหม่ -'อังกฤษ' เจอคนงานฟาร์มผักติดเชื้อใหม่ 73 ราย- รบ.ญี่ปุ่น เล็งขอธุรกิจกรุงโตเกียวหยุดกิจการชั่วคราวลดตัวเลขผู้ติดเชื้อ - 'แอฟริกาใต้' สั่งเคอร์ฟิวกลางคืนห้ามขายสุรา - 'ออกซ์แฟม'คาดก่อนสิ้นปียอดคนหิวตายทะลุ 1.2 หมื่นต่อวัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสล่าสุด ว่า ในช่วงเช้าวันที่ 13 ก.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 13,027,768 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194,263 ราย เสียชีวิต 571,076 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3,952 ราย
โดยองค์กรอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกแถลงการณ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนมากยังคงอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้
ขณะที่ ทางออกซ์แฟมซึ่งเป็นกลุ่มการรวมตัวขององค์กรการกุศลจำนวนกว่า 20 แห่งทั่วโลก ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางออกซ์แฟมได้ประเมินแล้วว่าก่อนสิ้นปีนี้จะมีผู้เสียชีวิตรายวันอันเนื่องมาจากความหิวโหย ซึ่งเป็นผล กระทบมาจากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ระบาดเป็นจำนวนถึง 12,000 รายต่อวัน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนั้นถือว่ามากกว่าผู้เสียชีวิตรายวันอันเนื่องมาจากไวรัสโควิด 19
ส่วนสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม ผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 3,413,874 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 58,228 ราย เสียชีวิต 137,782 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 380 ราย
สำหรับรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐฟลอริดา มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 15,300ราย
ขณะที่ทำเนียบขาว มีรายงานจากสำนักข่าวเอ็นบีซีของสหรัฐฯระบุว่า ทางทีมงานบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายคนได้ออกมาแสดงความไม่สบายใจต่อกรณีการให้ข่าวของ นพ.แอนโทนี ฟาวซีผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติ และทีมที่ปรึกษาสถานการณ์ไวรัสทำเนียบขาว เนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วงเดือน มี.ค. นพ.ฟาวซีได้เคยออกมาให้ข้อมูลในประเด็นว่าไวรัสโควิด19 ไม่ใช่ภัยร้ายแรง และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากแต่อย่างใด
ขณะที่ประเทศเม็กซิโก มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 289,174 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 6,891 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 34,191 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตใหม่ 665 ศพ
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีปและเป็นอันดับ 2 ของโลก จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 1,866,176 ราย ติดเชื้อใหม่ 25,364 ราย เสียชีวิต 72,151 ราย เสียชีวิตใหม่ 659 ราย ทำให้บราซิลกลายเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 1 ของโลก
โดยนายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลที่ถูกตรวจพบว่าติดโควิด 19 ได้ออกมาแถลงการณ์ยอมรับว่าผ่านเฟซบุ๊กว่า สถานการณ์โควิด 19 ทำให้ประเทศบราซิล ณ เวลานี้ใกล้เข้าสู่สภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาหนึ่งของการแพร่ระบาดก็คือการเผยแพร่ข่าวปลอมต่างๆ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดความตื่นตระหนกกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ ภัยที่ร้ายแรงที่สุดที่ประชาชนควรตระหนัก คือไม่มีอะไรที่ร้ายแรงไปกว่าไวรัสอีกแล้ว
นายฌาอีร์ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาสถานการณ์อาจจะเลวร้ายลงยิ่งกว่านี้อีก ถ้าหากรัฐบาลบราซิลไม่ได้ออกมาตรการช่วยเหลือในสภาวะฉุกเฉินให้กับประชาชนจำนวนกว่า 60 ล้านคน แต่ขณะนี้ขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวบราซิลพักเรื่องการเมืองอันเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดเอาไว้ก่อน แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง Band Jornalismo
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 727,162 ราย ติดเชื้อใหม่ 6,615 ราย เสียชีวิต 11,335 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 130 ราย
ขณะที่ประเทศอังกฤษ มีรายงานการแพร่ระบาดใหม่ที่ฟาร์มผัก AS Green and Co ที่มณฑลเฮริฟอร์ดเชอร์ โดยมีพนักงานในฟาร์มติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 73 ราย และต้องมีการกักตัวพนักงานในฟาร์มจำนวนทั้งสิ้น 200 ราย
โดยฟาร์มแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ส่งออกผลิตภัณฑ์ผัก อาทิ บร๊อกโคลี่ ถั่ว ไปยังซุปเปอร์มาเก็ตรายใหญ่ทั่วประเทศอังกฤษ
อ้างอิงวิดีโอจากช่อง ITV NEWS
ทวีปเอเชียอินเดีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 879,466ราย ติดเชื้อใหม่ 29,108 ราย เสียชีวิตสะสม 23,187ราย เสียชีวิตใหม่ 500 ราย
สำหรับ ประเทศจีน มีการระบาดใหม่จำนวน 7 ราย โดยเป็นการระบาดจากต่างประเทศทั้งหมด
ขณะที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 37 ราย
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 409 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 206 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในกรุงโตเกียว
ขณะที่นายยาสุโทชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้ออกมาแถลงข่าวว่า รัฐบาลกลางญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะร้องขอให้ธุรกิจในกรุงโตเกียว ในจังหวัดไซตามะ จังหวัดชิบะ ยุติการดำเนินธุรกิจเป็นการชั่วคราว เพื่อจะควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ดังกล่าว
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ในภูมิภาค มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 75,699 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,681 ราย เสียชีวิตสะสม 3,606 ราย เสียชีวิตใหม่ 71 ราย ทำให้อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสม และผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทยนั้น ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 14 ราย พม่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
ทวีปแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 276,242 ราย ติดเชื้อใหม่ 12,058 ราย เสียชีวิต 4,079 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 108 ราย
ล่าสุดมีรายงานว่านายไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ได้ออกมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มสุรา และมาตรการเคอร์ฟิวในช่วงเวลากลางคืนเพื่อลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในประเทศซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนเตียงคนไข้ที่จะเตรียมเอาไว้สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด 19 โดยคาดว่าจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ในประเทศแอฟริกาใต้น่าจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือน ก.ค. ถึงต้นเดือน ก.ย.
ส่วนความเคลื่อนไหวในภูมิภาคโอเชียเนีย ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 279 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐวิกตอเรีย 273 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์ 5 ราย
โดยหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ออกประกาศเตือนให้ผู้ที่เข้าพักในโรงแรม Sydney’s Crossroads Hotel ในนครซิดนีย์ตั้งแต่วันที่ 3-10 ก.ค. กักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน หลังจากที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อที่มาจากผับของโรงแรมแห่งนี้จำนวน 9 ราย
ขณะที่ ประเทศนิวซีแลนด์ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage