ป.ป.ช. เฉลยเหตุผู้บริหารท้องถิ่น ถูกชี้มูลความผิด แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ เพราะกฤษฎีกาเคยตีความว่าเป็นความผิดคนละสมัย แนะต้นสังกัดหยิบเรื่องความประพฤติเสื่อมเสียมาพิจารณาเอาผิด ชี้เรื่องนี้เป็นปัญหาด้านข้อกฎหมายที่เรื้อรังมานาน เผยรัฐอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายหลายฉบับเพื่อให้มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายคนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แต่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องมาได้จนถึงปัจจุบัน สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะหน่วยงานต้นสังกัดไม่ได้พิจารณาลงโทษหรือสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า โดยหลักการแล้ว ป.ป.ช.วินิจฉัยชี้มูลความผิดบุคคล และเข้าสู่กระบวนการที่ศาลประทับรับฟ้อง ผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ปรากฏว่าเมื่อแจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน กลับได้รับคำตอบว่า ขณะที่กำลังความผิดเป็นการดำรงตำแหน่งอีกสมัย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถพิจารณาลงโทษได้
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายนี้ว่า การดำรงตำแหน่งคนละสมัย ไม่สามารถลงโทษได้ แต่หน่วยงานต้นสังกัด สามารถอาศัยเหตุที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยชี้มูลความผิด เพื่อดำเนินการเอาผิดบุคคลดังกล่าวได้
“แม้ว่าจะลงโทษไม่ได้ เพราะพ้นตำแหน่งจากสมัยหนึ่ง และไปดำรงตำแหน่งอีกสมัยหนึ่ง แต่กฤษฎีกามีความเห็นว่า สามารถอาศัยเหตุที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยชี้มูลความผิดไปดำเนินการเอาผิดต่อไปได้ แม้จะเป็นการดำรงตำแหน่งคนละสมัยก็ตาม โดยต้นสังกัดต้องยกเหตุมาพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติเสื่อมเสีย เป็นต้น” นายนิวัตไชย กล่าว
รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นข้อกฎหมายที่มีปัญหาเรื้อรังกันมานาน โดยปัจจุบันทราบว่าจะมีการปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายหลายฉบับ เพื่อให้มีการดำเนินการสอดรับกับการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. เช่น พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมว่า แม้จะพ้นตำแหน่งไปแล้ว ก็ยังสามารถตั้งกรรมการสอบสวนวินัยได้ภายใน 1 ปี และต้องสอบสวนให้เสร็จภายใน 2-3 ปี เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นการแก้ไขเพื่อให้สอดรับกับกฎหมาย ป.ป.ช.
“เรื่องท้องถิ่นมีปัญหามาก และ ป.ป.ช.พยายามรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ซึ่งเราเห็นแล้วว่ามีช่องโหว่ โดยระหว่างนี้สำนักงานคดีของ ป.ป.ช. จะติดตามความคืบหน้าคดีอีกทางหนึ่ง ทันทีที่ศาลประทับรับฟ้องก็จะรีบแจ้งให้ต้นสังกัดรับทราบและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามก็มีช่องโหว่อีกว่า บางคนบอกว่าไม่ได้รับรู้รับทราบว่าศาลประทับรับฟ้องเมื่อไร จึงไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันที ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่เราต้องพยายามแก้ไขต่อไป” นายนิวัติไชย กล่าว
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/