ศาลจังหวัดนางรอง เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีปุ๋ยบุรีรัมย์ กรณี หจก.ดีสิงห์ทวีโชค ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 42 ล้าน เหตุจำเลยที่ 75 เสียชีวิตต้องรอไต่สวน ส่งสำนวนกลับศาลอุทธรณ์ เกษตรกรตกเป็นจำเลยกว่า 222 ราย ลุ้นต่อ หลังสู้คดีนานกว่า 5 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ศาลจังหวัดนางรอง ได้นัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ในคดีแพ่ง ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ดีสิงห์ทวีโชคเป็นโจทย์ยื่นฟ้องกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร จำนวน 222 ราย จากพื้นที่ 5 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ อำเภอโนนสุวรรณ ปะคำ นางรอง หนองกี่ และหนองหงส์ โดยให้ชดใช้ค่าปุ๋ยภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ปี พ.ศ.2558 รวมเป็นเงินกว่า 42 ล้านบาท หลังจากที่ ศาลชั้นต้น มีพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 ฝ่ายโจทย์ได้ยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ
ทั้งนี้ ในเวลา 10.00 น. จำเลย ซึ่งเป็นกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ที่ศาลจังหวัดนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าศาลนางรองได้ชี้แจงกับกลุ่มจำเลยว่า ต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป เนื่องจากมีจำเลยลำดับที่ 75 เสียชีวิต ซึ่งทนายจำเลยรายดังกล่าวยังสืบหา ติดตามพยานหรือทายาท เพื่อนำมาแถลงต่อศาลไม่ได้ ซึ่งจะต้องมีการไต่สวนและรวบรวมส่งสำนวนกลับคืนไปที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา แล้วจึงจะนัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อีกครั้ง
สำหรับโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บุรีรัมย์ โดยให้การสนับสนุนปัจจัยการผลิตแจกปุ๋ยฟรีให้แก่กลุ่มเกษตรกรในจังหวัดบุรีรัมย์เป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555-2558 แต่มาเกิดปัญหาขึ้นจนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องสำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าวในปี 2558 เนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบพบความไม่โปร่งใสของโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ปี 2555-2557 ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ไม่เซ็นอนุมัติงบประมาณให้แก่ อบจ. บุรีรัมย์ และได้สั่งให้ อบจ.ทบทวนโครงการดังกล่าว ซึ่งในระหว่างนั้นทางบริษัทปุ๋ยได้นำปุ๋ยมาส่งให้เกษตรกรและให้เซ็นชื่อรับปุ๋ยไว้ก่อนเพื่อนำไปเบิกเงินกับ อบจ.เจ้าของโครงการ ซึ่งต่อมาทางกลุ่มเกษตรกรได้ถูกหจก. ดีสิงห์ทวีโชค ฟ้องในข้อหาผิดสัญญาซื้อขาย โดยมีการยื่นฟ้องเกษตรกร จำนวน 222 รายในปี 2559
ในช่วงปี 2559-2560 ศาลจังหวัดนางรอง ได้มีการไกล่เกลี่ยหลายครั้ง แต่ไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากฝ่ายเอกชน ยืนยันจะเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 42 ล้านบาท แต่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรไม่มีเงินที่จะจ่ายให้จึงเดินหน้าสู้คดี อีกทั้งยังเห็นว่าการดำเนินโครงการไม่มีความเป็นธรรมของหน่วยงานรัฐ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกลับไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งได้พยายามร่วมมือกันเรียกร้องความยุติธรรมกันเองผ่านช่องทางต่างๆตามลำดับทั้งการเรียกร้องผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม และสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยกลุ่มชาวบ้านได้ต่อสู้คดีนี้ตั้งแต่ปี 2558-2563 รวมระยะเวลากว่า 5 ปี
อ่านประกอบ :
พฤติการณ์ 'บิ๊กอบจ.' คดีปุ๋ยฉาวบุรีรัมย์ 328 ล.! สตง.ชี้ปล่อยปละละเลยทำรัฐเสียหาย157 ล.
ก.เกษตร ขยับสอบปุ๋ยบุรีรัมย์328 ล.! พลิกจว.ตามหา'ผอ.'พัวพันคดีหายตัวปริศนา
ปลัดอบจ.บุรีรัมย์ แจ้งความ'เมียเนวิน' หลังถูกสตง.ชี้มูลคดีแจกปุ๋ย 328 ล้าน
ฉบับเต็ม!ผลสอบปุ๋ยอบจ.บุรีรัมย์ เสียหายยับ157ล. ชนวนเหตุ 'เมียเนวิน-พวก' ถูกแจ้งความ
ปุ๋ยอบจ.บุรีรัมย์ฉาวลามทั้งจังหวัด! สตง.จี้ ปลัดมท. ฟัน 'ผู้ว่าฯ-2รองฯ'
เปิดตัว 'สจ.' ปุ๋ยบุรีรัมย์328 ล.! สตง.ชี้ส่วนต่าง240 บ./กระสอบ-เจ้าตัวปัดไม่รู้เห็น
'ผอ.'พัวพันปุ๋ย อบจ.บุรีรัมย์ ลาออกปริศนา!เกษตรกรถูกฟ้องทวงหนี้หมื่นราย
ปัดแจง 'หัวคิว' ปุ๋ยบุรีรัมย์! เปิดคำให้การ หจก.ดีสิงห์ฯ ผู้ฟ้องเกษตรกรเบี้ยวเงิน 40 ล.
ขมวดปม!คดีปุ๋ยบุรีรัมย์ 328 ล. ฟันส่วนต่าง 240 บ.-เอกชนฟ้องชาวบ้านนัวเนีย ใครรับผิดชอบ?
ซัดคนชั่วร้าย ทำผู้อื่นเดือนร้อน!ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ยันอนุมัติงบปุ๋ย328 ล.โดยสุจริต
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/